“กะหล่ำปลีแพชชั่น” เจียไต๋ ปลูกง่าย ทนโรค น้องใหม่มาแรงแซงทุกสายพันธุ์ ครองใจเกษตรกรชาวไทย

       สำหรับเกษตรกรผู้เพาะปลูกกะหล่ำปลี ในช่วงฤดูฝนนี้หากกำลังมองหาสายพันธุ์กะหล่ำปลีที่มีคุณภาพ ทนต่อสภาพอากาศนั้น เมล็ดพันธุ์เจียไต๋ โดยบริษัท เจียไต๋ จำกัด

ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย ขอนำเสนอ “กะหล่ำปลีแพชชั่น” (Passion Cabbage) กะหล่ำปลีสายพันธุ์น้องใหม่มาแรง ที่เจียไต๋ได้ปรับปรุงสายพันธุ์ให้ตอบโจทย์

ความต้องการของตลาด เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรสามารถปลูกกะหล่ำปลีได้ตลอดทั้งปี

 

       กะหล่ำปลีแพชชั่น กำลังเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มเกษตรกรในภาคเหนือของประเทศไทย ด้วยคุณสมบัติที่ปลูกได้ง่าย มีอัตราการงอกที่ 98% สามารถปรับตัวได้ดีในทุกสภาพอากาศ ทนโรค ให้ผลิตผลกะหล่ำปลีหัวใหญ่ ทรงแป้น รสชาติอร่อย หวาน กรอบ และที่สำคัญคือขายได้ราคาสูง เป็นที่ต้องการของตลาดโดยเฉพาะกับบรรดาร้านอาหาร

ที่ต้องการวัตถุดิบดีมีคุณภาพ จึงช่วยสร้างรายได้ สร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับเกษตรกร

 

 

ซึ่งวิธีการปลูกกะหล่ำปลีแพชชั่น แบบห่อหัวนั้น มีขั้นตอนง่ายๆ ได้แก่

 

       1. เริ่มจากการเพาะกล้า โดยใช้เวลา 25 – 30 วัน หลังจากนั้นย้ายต้นกล้าลงดิน

       2. เตรียมดินสำหรับย้ายกล้า โดยไถพรวนหน้าดิน 1 รอบ เพื่อปรับหน้าดิน จากนั้นไถพรวนยกร่อง

       3. ต่อสปริงเกลอร์ ระยะห่าง 4 เมตร เพื่อให้การให้น้ำทำได้อย่างทั่วถึง

       4. ระยะห่างการปลูกกะหล่ำปลี ที่เหมาะสมอยู่ที่ 30x30 เซนติเมตร ส่วนระยะห่างระหว่างร่องประมาณ 60 เซนติเมตร (สำหรับฤดูฝน ควรปลูกในระยะห่างที่ 35x35 เซนติเมตร)

       5. หลังย้ายกล้าลงดิน 60 วัน สามารถเก็บเกี่ยวผลิตผลกะหล่ำปลีได้เลย

                                                       การปลูกกะหล่ำปลีแพชชั่นแบบห่อหัว                 การปลูกกะหล่ำปลีแพชชั่นแบบเก็บแขนง

 

       นอกจากกะหล่ำปลีแพชชั่นจะได้รับความนิยมในพื้นที่ภาคเหนือแล้ว สำหรับพื้นที่ภาคกลาง เกษตรกรยังนิยมปลูกกะหล่ำปลีแพชชั่น แบบเก็บแขนง เพราะแตกแขนงได้ดี ให้น้ำหนักดี สามารถเก็บแขนงได้เฉลี่ย 6-7 ครั้ง ต่อหนึ่งรอบการปลูก

 

       ทั้งนี้ การปลูกกะหล่ำปลีในช่วงฤดูฝน เกษตรกรควรระมัดระวังเรื่องโรคในกะหล่ำปลี อาทิ โรคเน่าเละ โรคเน่าดำ และโรคใบจุดจากเชื้อรา เป็นต้น ซึ่งสามารถป้องกันได้โดยหมั่นสำรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอ ถ้าพบต้นที่เป็นโรคหรือแสดงอาการ ให้รีบถอนหรือเผาทิ้ง พร้อมพ่นสารกำจัดเชื้อโรคบริเวณที่พบ อีกทั้ง ในพื้นที่ที่มีประวัติการเกิดโรค ควรปลูกพืชหมุนเวียนอย่างน้อย 2-3 ปี และที่สำคัญการเลือกสายพันธุ์ที่มีคุณภาพ ทนต่อสภาพอากาศ และทนโรค อย่างกะหล่ำปลีแพชชั่นของเจียไต๋ก็จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคพืชดังกล่าว ทั้งยังช่วยให้เกษตรกรมั่นใจ สามารถเพาะปลูกได้ผลิตผลดีและมีคุณภาพตรงตามตลาดต้องการ

 

       สำหรับผู้ที่สนใจเมล็ดพันธุ์ “กะหล่ำปลีแพชชั่น” ของเจียไต๋ สามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้าเกษตรชั้นนำทั่วประเทศ หรือติดตามข่าวสารพร้อมด้วยเคล็ดลับความรู้ทางการเกษตรได้ทาง Facebook: เมล็ดพันธุ์เจียไต๋ www.facebook.com/chiataiseed Line @chiataiseed และเว็บไซต์เจียไต๋ www.chiataigroup.com