เคล็ดลับชาวสวน ปลูก “มังคุด” ให้ได้คุณภาพเกรดเอ ส่งออก ราคาดี

มังคุด” หรือที่ใครๆต่างยกให้เป็น ราชินีผลไม้ และเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทย มีปริมาณการส่งออกมากเป็นอันดับต้นๆของโลก แต่การปลูกมังคุดให้ได้คุณภาพมาตรฐานตามที่ตลาดส่งออกต้องการคือ ลูกใหญ่ หูเขียว ผิวมันสวย นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับชาวสวน เพราะมีปัจจัยแวดล้อมต่างๆมากมายที่มีผลต่อการเพาะปลูกมังคุด

 

"ป้าต้อย-เพ็ญศรี พุ่มคำ" วัย 62 ปี แห่งสวนป้าต้อยป้าติ่ง อ.ขลุง จ.จันทบุรี ยึดอาชีพชาวสวนมาแต่แรกเริ่ม เดิมทีปลูกทั้งเงาะและทุเรียนเหมือนสวนอื่นๆรอบข้าง แต่ด้วยมีความสนใจในมังคุดและใจรัก จึงเริ่มศึกษาหาความรู้ และทดลองปลูกในขณะที่ยังปลูกทุเรียน จนถึงช่วงที่มังคุดเริ่มเติบโต จึงตัดสินใจเลิกทำสวนทุเรียนแล้วหันมาฟูมฟักมังคุดอย่างเดียวจนถึงปัจจุบันนานกว่า 20 ปี จากประสบการณ์ของป้าต้อย ยึดคติและให้นิยามสั้นๆว่า “ทำน้อยได้มาก ทำมากได้น้อย” หมายถึงว่ามังคุดที่ผลดก มีปริมาณมาก ไม่ได้แปลว่าจะได้เงินมากตามไปด้วย แต่มังคุดที่ “ลูกใหญ่ หูเขียว ผิวสวย” แม้จะได้ปริมาณต่อไร่น้อยกว่า แต่ถ้าผลผลิตคุณภาพดีก็จะสร้างรายได้ที่สูงกว่า นี่คือเหตุผลที่ทำให้การควบคุมคุณภาพผลผลิตเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจขั้นสุด

 

ปัจจัยปลูกมังคุด ให้ผลผลิตมีคุณภาพ

กว่าจะได้มังคุดเกรดเอ ส่งออกได้ราคาดี ป้าต้อยต้องศึกษาและเรียนรู้ ลองผิดลองถูกมาตลอด แม้ในปัจจุบันก็ต้องหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ ป้าต้อยให้ความสำคัญกับ การเข้าใจและรู้ธรรมชาติของมังคุด หรืออ่านมังคุดให้ออกว่าต้องการอะไร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก  สำหรับมังคุดจะเริ่มให้ผลผลิตได้ตั้งแต่อายุราว 7  ปีขึ้นไป หากเข้าใจมังคุดและบำรุงดูแลดีๆ ให้ต้นสมบูรณ์แข็งแรง แม้อายุต้น 60 ปี ก็ยังสามารถออกผลผลิต สร้างรายได้ให้เกษตรกรได้  โดยในแต่ละปีมังคุดอาจจะมีความต้องการแตกต่างกัน ทำให้ต้องควบคุมปัจจัยต่างๆให้เหมาะสมตามที่มังคุดต้องการ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางด้านสภาพอากาศ การจัดการแปลงปลูกและระบบน้ำ รวมทั้งการจัดการธาตุอาหารเพื่อบำรุงในทุกระยะของการเติบโตให้สมบูรณ์ ทั้งลำต้น ใบ ดอก และผล ตลอดจนการเก็บเกี่ยวอย่างไรให้ได้คุณภาพเกรดเอ ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังและใส่ใจ

 

เคล็ดลับผลผลิตที่ดี เริ่มตั้งแต่การจัดการแปลง

ด่านแรกของปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของมังคุด คือ สภาพอากาศ ความชื้น และแสงแดด ซึ่งป้าต้อยแนะนำการวางระยะห่างระหว่างต้นให้เหมาะสม ประมาณ 8x8 เมตร เนื่องจากมังคุดเป็นพืชที่มีกิ่งและใบค่อนข้างมาก หากเว้นระยะของต้นถี่เกินไป จะทำให้ได้รับแสงไม่เพียงพอ อากาศทึบ ส่งผลต่อการออกดอกและไม่ได้ผลผลิตที่ดี นอกจากการวางระยะห่างระหว่างต้นแล้ว ยังต้องสังเกตกิ่งใบ ควรตัดแต่งกิ่งและใบต่ำๆออก เพื่อให้แสงส่องผ่านทรงพุ่มไปถึงโคนต้น ช่วยให้มังคุดได้รับแสงในการใช้สังเคราะห์อาหารได้อย่างเพียงพอ

ปุ๋ยตรากระต่าย มังคุด

การเว้นระยะการปลูกระหว่างต้นที่เหมาะสม

 

มังคุด ลูกใหญ่ คุณภาพดี ต้องบำรุงดูแลในทุกระยะการเจริญเติบโต

ป้าต้อยให้ความสำคัญกับการดูแลในทุกช่วงของมังคุดและจะต้องสังเกตมังคุดทุกวันแม้ในช่วงยังไม่ออกดอกออกผล เพราะทุกระยะการเติบโตของมังคุดล้วนมีผลต่อผลผลิตทั้งสิ้น โดยเทคนิคของป้าต้อย เริ่มตั้งแต่

 

1. ระยะฟื้นฟูสภาพต้นหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อให้ต้นสมบูรณ์ไม่โทรม พร้อมการออกผลผลิตครั้งต่อไป หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตประมาณ 10 วัน ใส่ปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 16-16-16 บลู ครั้งแรก อัตรา 1 กิโลกรัมต่อต้น และเว้นช่วง 10 วัน จากนั้นใส่ปุ๋ยตรากระต่ายครั้งที่สอง สูตร 16-16-16 บลู ผสมกับยูเรีย 46-0-0 สัดส่วน 1:1 และใส่ในอัตรา 2 กิโลกรัมต่อต้น หลังจากนั้นให้ทิ้งช่วงประมาณ 20 วัน เพื่อให้สะสมอาหาร และเกิดการแตกใบอ่อน จนใบแก่สมบูรณ์ ก็จะพร้อมออกดอก

ปุ๋ยตรากระต่าย มังคุด

 

2. ระยะก่อนการออกดอก ถึง ดอกสมบูรณ์ ในระยะนี้จะต้องสังเกตหากใบไม่พร้อม(ใบไม่แก่) ไม่ออกดอกจะใส่ปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 9-25-25 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อต้น เพื่อให้ธาตุอาหารเพียงพอต่อการออกดอก และบำรุงด้วยอโทนิค ช่วยให้พืชดูดกินธาตุอาหารอย่างเหมาะสม ส่งเสริมให้ดอกสมบูรณ์ ซึ่งถ้าหากดอกสมบูรณ์ดอกใหญ่ ก็จะมีผลช่วยให้ผลผลิตใหญ่ด้วยเช่นกัน ในบางปีหากสภาพอากาศและปริมาณน้ำฝนดีเพียงพอ ใบก็จะสะสมอาหารและพร้อมออกดอกได้เร็ว ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็วเช่นกัน

ปุ๋ยตรากระต่าย มังคุด

ปัญหาที่ชาวสวนมังคุดเจอส่วนใหญ่คือ มังคุดไม่ออกดอก, ไม่มีหลักควบคุมปริมาณดอกมังคุดที่พอดี รวมไปถึงปริมาณน้ำที่ต้องให้อย่างเหมาะสมในช่วงออกดอกจนถึงดอกบาน

 

ทำไมมังคุดไม่ออกดอก

       อุปสรรคข้อสำคัญของชาวสวนมังคุดข้อหนึ่ง คือ มังคุดไม่ออกดอก ซึ่งหากมังคุดไม่ออกดอกก็จะไม่ออกผล จากประสบการณ์ของป้าต้อย สิ่งสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังด่านแรกคือ “สภาพอากาศ” เพราะมังคุดจะชอบอากาศร้อนชื้น อุณหภูมิประมาณ 25-35 องศาเซลเซียส ฝนตกน้อยหรือทิ้งช่วงกว่า 20 วัน มีความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 70%  ป้าต้อยจะต้องหมั่นตรวจเช็กจากเครื่องวัดสภาพอากาศ ซึ่งหากมีปีไหนไม่สามารถควบคุมสภาพอากาศได้ เทคนิคของป้าต้อยจะสังเกตจากลักษณะของใบ ว่าต้องทำอย่างไรให้ออกดอก หากใบไม่พร้อม ถึงจะต้องเพิ่มธาตุอาหารด้วยปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 9-25-25 นอกจากนี้อีกปัจจัยที่ทำให้มังคุดไม่ออกดอก คือ การให้น้ำในปริมาณที่ไม่เหมาะสม  

ปุ๋ยตรากระต่าย มังคุด

ใบมังคุดช่วงหลังฟื้นต้น และแตกใบอ่อน

 

ปริมาณน้ำในช่วงสำคัญของชีวิตมังคุด ในระยะออกดอก จนถึงดอกบาน

       ป้าต้อยกล่าวว่า ต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอช่วงการเจริญเติบโตทางใบ และควรบำรุงใบให้ทันช่วงปลายฝน (หรือชาวสวนมักเรียกว่าช่วงแล้ง) จากนั้นต้องงดให้น้ำต่อเนื่องกันนาน 20 วัน เทคนิคนี้เรียกว่าการแกล้งมังคุดให้เครียด หลังจากจากนั้นค่อยให้น้ำมังคุด วิธีนี้จะทำให้มังคุดติดดอกทันที การให้น้ำหลังจากหยุดไป จะต้องให้มากจากเดิมเป็นเท่าตัว โดยปกติให้ครั้งละ 1 ชั่วโมง ช่วงนี้จะต้องให้น้ำเพิ่มเป็น 2 ชั่วโมง เพื่อเป็นกระตุ้นการออกดอก และค่อย ๆ ลดปริมาณน้ำลงจนเมื่อดอกบานจนเหมาะสม จะเพิ่มปริมาณการให้น้ำอีกครั้ง แล้วค่อยลดปริมาณน้ำลงให้เป็นปกติ ป้าต้อยแนะนำเพิ่มเติมว่าหากในช่วงกำลังหยุดให้น้ำแล้วมีฝนตกลงมา จะต้องเริ่มหยุดให้น้ำใหม่ต่อเนื่องนาน 20 วัน อีกครั้ง

ปุ๋ยตรากระต่าย มังคุด

การควบคุมปริมาณดอก เพื่อให้ได้มังคุดลูกใหญ่

       การออกผลของมังคุด สามารถสังเกตได้จากการออกดอก หากปริมาณดอกมากเกินไป ก็ส่งผลให้ปริมาณมังคุดดกเกินไป ซึ่งคติของป้าต้อย จะเน้นปริมาณน้อยแต่คุณภาพดี เพราะหากลูกดก จะทำให้ขนาดลูกเล็กไม่ผ่านเกณฑ์ส่งออก ขายได้ราคาต่อกิโลกรัมก็จะน้อยลง  เทคนิคของป้าต้อยเมื่อมังคุดออกดอกเต็มที่ จะปล่อยให้ดอกร่วงจนเหลือ ประมาณ 30-50% จึงเริ่มใส่ปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 16-16-16 บลู เพื่อให้หยุดการออกดอก ทำเช่นนี้เพื่อให้ได้ปริมาณมังคุดที่เหมาะสม ได้มังคุดลูกใหญ่มีคุณภาพตามต้องการได้

 

3. ระยะบำรุงผลผลิต 

หลังจากติดผลเล็กแล้ว บำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 13-13-24 สองรอบ รอบแรก อัตราครึ่งกิโลกรัมต่อต้น เพื่อหยุดการหลุดร่วงของผล (นอกจากในช่วงออกดอกจะเกิดการสลัดร่วงแล้ว ช่วงการติดผลก็เกิดการหลุดร่วงด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องควบคุม) และหลังจากรอบแรก 10-15 วัน ใส่ปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 13-13-24 รอบที่สอง ในอัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อต้น เพื่อให้มังคุดลูกใหญ่ เปลืองบาง รสชาติดี

ปุ๋ยตรากระต่าย มังคุด

การเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างถูกวิธี

วิธีการเก็บผลผลิตของป้าต้อย จะต้องเก็บในช่วงที่ผลมังคุดยังเป็นสีเขียวอ่อน มีหูเขียวสมบูรณ์ ผิวเริ่มมีจุดประสีม่วงแดง หรือที่เรียกว่า “ระยะสายเลือด” ซึ่งถ้าหากไม่เก็บเกี่ยวให้ทันในช่วงนี้และปล่อยให้ผลเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวอ่อนเป็นสีม่วงแดงแล้ว จะทำให้ราคาตกเกรดส่งออกได้ทันที เพราะผิวมังคุดเมื่อถึงผู้บริโภคจะเข้มดำจนเกินไม่ จากราคาหลักร้อย จะเหลือหลักสิบก็เป็นได้ นอกจากนี้ในขั้นตอนการเก็บเกี่ยวจะต้องระวังความเสียหายของกิ่งมังคุด หากไม่เชี่ยวชาญพอจะทำให้กิ่งหักหลุดร่วง ส่งผลต่อความสมบูรณ์ของต้นมังคุด และผลผลิตในรอบปีถัดไปอีกด้วย

ปุ๋ยตรากระต่าย มังคุด

ระยะสายเลือดมังคุด

 

การปลูกมังคุดแม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หาก “เข้าใจธรรมชาติของมังคุด” และอ่านความต้องการของมังคุดให้ได้  อย่างที่ป้าต้อยกล่าวไว้ หมั่นดูแลและสังเกตุในทุกๆช่วง รวมถึงการจัดการแปลง การตัดแต่งกิ่งทรงพุ่งเพื่อให้มังคุดได้รับแสงและอากาศอย่างเพียงพอ รวมทั้งการบำรุงในทุกระยะการเจริญเติบโตด้วยปุ๋ยตรากระต่ายที่ป้าต้อยเลือกใช้และให้ความไว้วางใจ จนกระทั่งเก็บเกี่ยวอย่างถูกช่วงถูกวิธี รับรองว่าจะได้ผลผลิตมังคุดเกรดเอ “ลูกใหญ่ หูเขียว ผัวมันสวย” คุณภาพส่งออก ราคาดี ล้งจองข้ามปี และไม่เคยขาดทุนอย่างป้าต้อยได้อย่างแน่นอน

ปุ๋ยตรากระต่าย มังคุด

ติดตามข่าวสารอื่นๆ ข้อมูลสินค้า และข่าวสารจากปุ๋ยตรากระต่าย เพิ่มเติมได้ที่

Facebook: www.facebook.com/puitrakratai/

Youtube: www.youtube.com/c/Puitrakratai

ข้อมูลสินค้าปุ๋ยตรากระต่าย : http://www.chiataigroup.com/business/fertilizer/puitrakratai