ปัจจัยสำคัญในการปลูกมันสำปะหลัง เพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพ

       “มันสำปะหลัง” เป็นพืชเศรษฐกิจหลักสำคัญของประเทศ ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการขยายพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดทั้งภาคอุตสาหกรรม อาทิเช่น อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ และอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน

       ในส่วนของภาคการเกษตร ที่ถือเป็นต้นน้ำในการผลิตมันสำปะหลังเพื่อที่จะส่งผลผลิตต่อไปยังภาคอุตสาหกรรม จึงเป็นต้องผลิตมันสำปะหลังให้ได้คุณภาพ เกษตกรผู้ปลูกมันสำปะหลังจึงควรให้ความสำคัญกับการเพาะปลูก ปัจจัยในการเพาะปลูกมันสำปะหลังเพื่อให้ได้คุณภาพ ผลผลิตหัวใหญ่ น้ำหนักดี เปอร์เซ็นต์แป้งสูง ควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆดังนี้

1.การเตรียมดิน

       โดยส่วนมากพื้นที่ที่มีการปลูกมันสำปะหลังในประเทศไทย มักปลูกติดต่อกันนานหลายปี จึงแนะนำให้เกษตรกรทำการปรับปรุงดินให้เหมาะสมเพื่อรักษาระดับผลผลิตในระยะยาว

• ก่อนปลูกควรเตรียมดินล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน เริ่มจากไถระเบิดดินดานก่อน จึงค่อยไถพรวนเตรียมดินให้ลึกประมาณ 10 - 20 เซนติเมตร โดยใช้วิธีไถดะด้วยผาน 3 หรือผาน 7 เพื่อระเบิดหน้าดินให้มีความร่วนซุย ให้น้ำซึมลงใต้ดิน เพิ่มความสามารถของดินให้กักเก็บน้ำและความชื้นได้มากขึ้น วิธีนี้จะช่วยให้พืชสามารถนำน้ำใต้ดินมาใช้เมื่อฤดูแล้ง การเตรียมดินลักษณะนี้ยังช่วยให้ต้นมันสำปะหลังลงหัวได้ง่าย
• ระหว่างการปรับปรุงบำรุงดินก่อนปลูก ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอกร่วมด้วย เช่น ปุ๋ยขี้ไก่ ประมาณ 100 - 200 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อปรับสภาพดิน และปรับโครงสร้างของดิน เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำ หลังจากนั้นบำรุงดินโดยปลูกพืชตระกูลถั่ว เช่น ปอเทือง ถั่วพร้า ฯลฯ หลังปลูกประมาณ 45 - 50 วัน จะเริ่มออกดอก ให้ทำการไถกลบทันทีเพื่อให้เป็นปุ๋ยพืชสด จากนั้นตากดินไว้ 2 สัปดาห์เพื่อฆ่าเชื้อในดิน เพลี้ยแป้งและวัชพืช ตามด้วยยกร่องดินก่อนปลูก โดยไถยกร่องสูงประมาณ 1 ศอก และมีระยะห่างระหว่างร่อง 1 วา

2. การเลือกท่อนพันธุ์

       การเลือกพันธุ์ให้เหมาะกับพื้นที่ สภาพภูมิอากาศและคุณลักษณะดิน จะช่วยลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังได้อย่างดี ทั้งนี้ตามหลักวิชาการถือว่า ดินร่วนเหนียว เป็น ดินดี สำหรับปลูกมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 5 และระยอง 72  ส่วนดินร่วนทราย จัดเป็นดินคุณภาพปานกลางถึงเลว เหมาะสำหรับปลูกมันสำปะหลังพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50  ระยอง 90 ห้วยบง 60 และระยอง 9  

       อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้ปลูกมันสำปะหลังพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 ระยอง 90 ห้วยบง 60 และระยอง 9  ในแหล่งดินร่วนเหนียว เพราะมันสำปะหลังทั้ง 4 สายพันธุ์นี้จะเจริญเติบโตในส่วนลำต้นที่อยู่เหนือดินมากกว่าลงหัว ซึ่งภาษาชาวบ้านเรียกกันว่า “ขึ้นต้น” หรือ “อาการบ้าต้น บ้าใบ” เกินไปนั่นเอง ส่วนมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 7 เหมาะปลูกในดินร่วนเหนียวและดินร่วนทรายที่มีความชื้นตลอดช่วงของการเจริญเติบโต แต่ไม่แนะนำให้ปลูกมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 7 ในสภาพดินที่แห้งแล้งเพราะให้ผลผลิตไม่คุ้มค่ากับการลงทุน (ข้อมูลอ้างอิง  http://at.doa.go.th/mealybug/varsite.htm)

       หากเลือกซื้อท่อนพันธุ์จากท้องตลาดทั่วไป ควรเลือกซื้อมันสำปะหลังพันธุ์ดีจากแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือได้ หรือส่วนมากเกษตรกรก็มีการผลิตท่อนพันธุ์ไว้ใช้เอง โดยควรเลือกท่อนมันสำปะหลังที่สด คือมีอายุประมาณ  10 - 12 เดือน เพราะมีเปอร์เซ็นต์การงอกสูงที่สุด โดยเลือกต้นพันธุ์ที่แข็งแรง มีตาถี่ ไม่น้อยกว่า 5 ตา ขนาดโตพอสมควร

       สำหรับเกษตรกรที่ปลูกและเก็บท่อนพันธุ์ไว้ปลูกรุ่นต่อไป ควรตัดท่อนปลูกด้วยมีดที่คมเพื่อไม่ให้ท่อนพันธุ์ช้ำ และควรตัดท่อนพันธุ์ความยาวไม่ต่ำกว่า 20 เซนติเมตร  หลังตัดท่อนพันธุ์แล้วไม่ควรเก็บไว้นานเกิน 1 เดือน เพราะยิ่งเก็บไว้นาน ยิ่งงอกยาก

       เพื่อป้องกันแมลง เกษตรกรควรนำท่อนพันธุ์ไปแช่สารเคมี ก่อนปลูก ได้แก่ ไทอะมีโทแซม 2 กรัม ผสมน้ำ 10 ลิตร หรือ อิมิดาโคลพริด 4 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร หรือ ไคโนทีฟูแรน 40 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร จากนั้น ผึ่งให้แห้งก่อนนำไปปลูก วิธีนี้ช่วยป้องกันเพลี้ยแป้งที่ติดมากับท่อนพันธุ์ได้ดี และป้องกันไม่ให้เพลี้ยแป้งเข้าทำลายต้นมันสำปะหลังที่ปลูกได้นานอย่างน้อย 30 - 45 วัน หลังจากแช่ท่อนพันธุ์แล้ว ควรนำท่อนพันธุ์ไปปลูกให้เสร็จภายใน 1 วัน          

       ปัจจัยพื้นฐานข้างต้นเป็นสิ่งที่เกษตรกรควรใส่ใจในขั้นตอนและกระบวนการ ซึ่งเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับมันสำปะหลัง และเป็นพื้นฐานในการปลูกมันสำปะหลังให้ได้คุณภาพ

สามารถติดตามสาระเกษตรน่ารู้ มันสำปะหลัง(ต่อ)  ได้ที่

คลิก ขั้นตอนการปลูกและการบำรุง ให้มันสำปะหลังหัวใหญ่ น้ำหนักดี

คลิก การดูแลมันสำปะหลังระหว่างการเพาะปลูก ความสำคัญของน้ำ และการเก็บผลผลิต

ติดตามข่าวสารอื่นๆ ข้อมูลสินค้า และข่าวสารจากปุ๋ยตรากระต่าย เพิ่มเติมได้ที่

Facebook: www.facebook.com/puitrakratai/

Youtube: www.youtube.com/c/Puitrakratai

ข้อมูลสินค้าปุ๋ยตรากระต่าย : http://www.chiataigroup.com/business/fertilizer/puitrakratai