“แตงโม” เป็นพืชที่สามารถปลูกได้ทุกภาค ทุกฤดู และที่สำคัญคืออายุเก็บเกี่ยวสั้นเพียงประมาณ 2 เดือน จึงนิยมปลูกเป็นพืชคั่นสลับกับการปลูกพืชชนิดอื่น เช่น ปลูกเป็นพืชหลังนา และสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้ไม่น้อย จนบางครั้งอาจจะมากเสียจนหลายคนหันมาปลูกแตงโมเป็นอาชีพหลักเลยทีเดียว นอกจากนี้ จุดเด่นของแตงโม คือ เป็นพืชที่ทนอากาศร้อน ใช้น้ำในการเพาะปลูกเฉลี่ยเพียง 655 ลบ.ม./ไร่ จึงเป็นพืชน้ำน้อยตามคำแนะนำของกรมส่งเสริมการเกษตร โดยหากมีการวางแผนการปลูกและปรับปรุงดินอย่างมีประสิทธิภาพ ก็สามารถปลูกได้ถึง 3-4 รอบ/ปีเลยทีเดียว
วันนี้เราจะพาไปเจาะเคล็ดลับการปลูกแตงโมชั้นเซียนกับ “คุณการะเวก ก่วยจีน” อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร หรือที่คนในวงการแตงโมเรียกกันว่า “ป๋าเวก” ถือเป็น “ผู้บุกเบิก”
การปลูกแตงโมระดับหลักหลายร้อยไร่ ใน จ.กำแพงเพชร โดยมีจุดเริ่มต้นจากพื้นที่ปลูกเพียง 7 ไร่เท่านั้น
บนเส้นทางการปลูกแตงโมกว่า 20 ปี กว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องตามไปดูกันว่า มีสูตรเด็ดเคล็ดลับอะไรที่ทำให้ประสบความสำเร็จขนาดนี้!
พื้นที่แปลงแตงโมร่วมร้อยไร่ของคุณการะเวก
ปลูกแตงโมพลิกชีวิต เริ่มจากศูนย์ จนสร้างรายได้มั่นคงนานกว่า 20 ปี
คุณการะเวกเล่าให้ฟังว่า ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีที่แล้ว ตนเองเป็นเกษตรกรปลูกอ้อยและมันสำปะหลังอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีรายได้ที่ไม่ดีนัก จึงได้ย้ายถิ่นฐานมาปลูกแตงโมที่ จ.กำแพงเพชร เนื่องจากเห็นว่าเป็นพืชอายุสั้นแค่ประมาณสองเดือน ต่างจากอ้อยที่ต้องรอเวลาร่วมปีกว่าจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิต
ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นการปลูกแตงโมของคุณการะเวกนั้น ไม่มีความรู้มาก่อน จึงอาศัยศึกษาวิธีปลูกจากเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอเป็นหลัก ลองเริ่มปลูกแตงโมครั้งแรกบนพื้นที่ประมาณ
7 ไร่ จากนั้นก็ค่อยๆ ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นจากหลักสิบ เป็นหลักร้อย จนปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกอยู่ร่วม500 ไร่/ปี ผลิตแตงโมส่งขายทั่วประเทศ สร้างรายได้หมุนเวียนหลักล้านบาท
เลยทีเดียว
คุณการะเวกเผยว่า จุดสำคัญที่ทำให้แตงโมขายได้ราคาต้องอยู่ที่ “คุณภาพของผลผลิต” เป็นหลัก โดยแตงโม “เกรดเอ” ที่ตลาดต้องการนั้นต้องมีขนาด 4-7 กิโลกรัม เนื้อแดง รสหวานกรอบ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้มีปัจจัยสำคัญมาจากสายพันธุ์ เกษตรกรต้องศึกษาความต้องการของตลาด และคัดเลือกสายพันธุ์ที่ปลูกให้ตรงความต้องการผู้บริโภค ก็ทำให้มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว โดยแตงโมสายพันธุ์ที่คุณการะเวกปลูกมากที่สุดคือ “ซอนญ่า พลัส” เนื่องจากมีลักษณะตรงตามความต้องการของตลาด คือ เนื้อดี แดงแปร๊ด หวานเจี๊ยบ ใครกินก็ติดใจ และที่สำคัญคือมีผิวเหนียวทนแรงกระแทกและการขนส่งได้ดี ผู้รับซื้อไปขายต่อก็พอใจ เพราะผลผลิตไม่เสียหาย ผิวไม่ช้ำ วางจำหน่ายได้นาน
“ซอนญ่า พลัส” แตงโมเนื้อดี แดงแปร๊ด หวานเจี๊ยบ สายพันธุ์ที่ตลาดต้องการ แตงโม “เกรดเอ” ขนาด 4-7 กิโลกรัมต่อลูก
ปรับปรุงพื้นที่-จัดการแปลงอย่างเหมาะสม เรื่องพื้นฐานที่ควรให้ความสำคัญ
แม้ว่าแตงโมนั้นสามารถปลูกในดินเกือบทุกชนิด แต่ก็ไม่ชอบพื้นที่แฉะ เนื่องจากเสี่ยงต่อโรคทางใบและผลแตงโมจะเน่าง่าย
คุณการะเวกแนะนำว่า หากเป็นเกษตรกรรายใหม่ที่ต้องการเช่าพื้นที่ปลูกแตงโม ควรพิจารณาว่าจะปลูกแตงโมในช่วงเดือนไหนเป็นหลัก หากต้องการจะปลูก “ช่วงหน้าฝน”
ควรเลือกปลูกในพื้นที่ “ดินร่วนปนทราย” เนื่องจากดินมีคุณสมบัติระบายน้ำได้ดี แต่หากปลูก “ช่วงหน้าแล้ง” อาจเลือกปลูกใน “ดินร่วนเหนียว” ซึ่งเป็นดินที่อุ้มน้ำได้ดี
ไม่ต้องใช้น้ำมาก
นอกจากนี้ ก่อนปลูกต้องสำรวจพื้นที่ก่อนว่ามีทางระบายน้ำเพียงพอหรือไม่ หากไม่มี ต้องปรับพื้นที่ทำทางน้ำไหลให้เรียบร้อย ก็จะลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมได้มาก
ใช้รถแทรกเตอร์ยกร่องให้สูงประมาณ 30-50 ซม. เว้นระยะห่างระหว่างร่องประมาณ 4.5 เมตร
เมื่อเราได้พื้นที่ที่เหมาะสมแล้วก็ต้องมีการบำรุง-ปรับสภาพดินให้สมบูรณ์ พร้อมสำหรับการปลูกด้วย โดยคุณการะเวกจะเตรียมดินโดยไถพรวน 2-3 รอบ เพื่อปรับสภาพดินและตากดินทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อลดความเป็นกรดในดิน และฆ่าเชื้อโรค เชื้อราในดิน
หลังจากวางสายน้ำหยดเรียบร้อยแล้ว จะคลุมด้วยพลาสติกคลุมแปลงเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนย้ายกล้าลงปลูก
จากนั้นจะทำการยกร่องให้สูงประมาณ 30-50 ซม. เว้นระยะห่างระหว่างร่องประมาณ 4.5 เมตร ช่วยให้ระบายน้ำได้ดี และทำให้แตงโมมีพื้นที่เดินเถาได้เต็มที่ สำหรับระยะห่างระหว่างต้นอยู่ที่ประมาณ 50 ซม. เพื่อไม่ให้ต้นหนาแน่นจนเกินไปและติดลูกดี
เมื่อขึ้นแปลงเรียบร้อยแล้ว คุณการะเวกจะรองพื้นด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 15-15-15 เพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดินเตรียมพร้อมสำหรับลงต้นกล้า จากนั้นจะวางสายน้ำหยดตาม
ความยาวแปลงปลูก และคลุมด้วยพลาสติกคลุมแปลงที่เจาะหลุมปลูกตามระยะที่กำหนดไว้ เป็นขั้นตอนสุดท้าย
การจัดเถา-ต่อดอก-ไว้ลูก เทคนิคง่ายๆ ต้องรู้ ก่อนปลูกแตงโม
คุณการะเวก กำลังจัดเถาแตงโม เพื่อไม่ให้เถาเลื้อยพาดทับกัน จนทำให้อากาศในแปลงไม่ถ่ายเท
การปลูกแตงโมนั้นไม่ใช่แค่เพียงเพาะเมล็ด ให้น้ำ ใส่ปุ๋ย แล้วรอเก็บเกี่ยวผลผลิตเลย ในระหว่างเพาะปลูกเกษตรกรต้องทำหน้าที่คล้าย “พี่เลี้ยง” ช่วยดูแลอยู่ตลอด เพื่อให้แตงโมได้น้ำหนักดี เป็นเกรดเอสูง
โดยเทคนิคการดูแลที่คุณการะเวก แนะนำเพื่อให้ได้ผลผลิตกว่า 6 ตัน/ไร่ ได้ทั้งปริมาณและคุณภาพ มีดังนี้
คุณการะเวก กำลังจัดเถาแตงโม เพื่อไม่ให้เถาเลื้อยพาดทับกัน จนทำให้อากาศในแปลงไม่ถ่ายเท
1. การจัดเถา เมื่อเถามีความยาวประมาณ 30-60 ซม. คุณการะเวกจะคัดเลือกเถาที่สมบูรณ์ไว้เพียง 4 เถาต่อต้น และจัดระเบียบเถาแตงโมให้เลื้อยไปทางเดียวกัน หากปล่อย
ตามธรรมชาติเถาจะเลื้อยพาดทับกัน ทำให้แปลงทึบ อากาศไม่ถ่ายเท เมื่อแตงโมติดผลจะทำให้ผลเล็ก เจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่
การต่อดอก หรือผสมเกสร ควรทำในช่วงเวลา 07.00 น.-09.00 น.
เนื่องจากดอกตัวเมียจะบานในช่วงเช้า และดอกตัวผู้ยังคงมีละอองเกสรสมบูรณ์
2. การต่อดอก ช่วงแตงโมอายุประมาณ 30-35 วัน แตงโมจะเริ่มติดดอก คุณการะเวกจะเริ่มทำการต่อดอก หรือผสมเกสร ในช่วงเวลา 07.00 น.-09.00 น. เนื่องจาก
ดอกตัวเมียจะบานในช่วงเช้า และดอกตัวผู้ยังคงมีละอองเกสรสมบูรณ์ ช่วยให้แตงโมติดผลแน่นอน ทั้งนี้คุณการะเวก เสริมว่า ปัจจุบันการผสมเกสรอาจใช้วิธีฉีดพ่นฮอร์โมนผสมเทียม ช่วยลดระยะเวลาการทำงานและกำลังคนได้ แต่การผสมเกสรด้วยมือจะมีโอกาสการติดผลได้สูงกว่า
3. การไว้ลูก ปกติคุณการะเวกจะเลือกไว้ผลแตงโมไว้ 4 ผลต่อต้น โดยจะเลือกตำแหน่งไว้ลูกข้อที่ 10 เป็นต้นไป เพื่อให้ได้แตงโมขนาดผลใหญ่ โดยหากติดผลข้อต้นๆ
เช่น ข้อที่ 6 หรือ 7 จะปลิดทิ้งทั้งหมด เพราะนอกจากจะแย่งอาหารแล้ว ยังทำให้ผลผลิตที่ได้ไม่มีคุณภาพ
หลักการให้ “น้ำ” เรื่องสำคัญที่ห้ามพลาด เพื่อแตงโมทรงสวย ได้คุณภาพ
คุณการะเวก เน้นย้ำ การให้ “น้ำ” เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพของแตงโมมาก เนื่องจากแตงโมนั้นเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 90% หากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผลเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ ทรงไม่สวย มีอาการหัว-ท้ายผลไม่เสมอ กลายเป็นแตงโมตกเกรดไปทันที
“ระบบน้ำหยด” จะให้ปริมาณน้ำสม่ำเสมอ เพื่อให้ผลแตงโมได้รับน้ำเพียงพอครบทุกช่วงการเจริญเติบโต
ซึ่งหลักการให้น้ำแตงโมที่คุณการะเวกใช้นั้นก็คือ “ให้น้อย แต่สม่ำเสมอ” เนื่องจากธรรมชาติของแตงโมนั้นเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมากอยู่แล้ว ใช้เพียง “ระบบน้ำหยด” ก็เพียงพอต่อความต้องการ โดยการให้น้ำจะแตกต่างในแต่ละระยะดังนี้
- ระยะแตงโมผลเล็ก (หลังการย้ายกล้า - อายุ 45 วัน) จะให้น้ำประมาณ 30 นาที/วัน ต่อเนื่องทุกวันจนติดผลเล็ก
- ระยะแตงโมผลใหญ่ (อายุ 45-50 วัน) จะเริ่มเพิ่มปริมาณน้ำมากขึ้น โดยจะใช้เวลาให้น้ำ 1-1.30 ชม./วัน ต่อเนื่องทุกวันจนเก็บเกี่ยวผลผลิต
เคล็ดลับการบำรุงตาทระยะการเจริญเติบโต เพื่อแตงโม “เกรดเอ” ใครได้กินก็ติดใจ!
ในการจำหน่ายแตงโมนั้นมีเกณฑ์การวัดคุณภาพอยู่ที่ “ขนาดผล” โดยจะแบ่งออกเป็น 3 เกรดหลัก คือ
- เกรดเอ น้ำหนักผลประมาณ 4-7 กิโลกรัม
- เกรดบี น้ำหนักผลประมาณ 3-4 กิโลกรัม
- เกรดซี น้ำหนักผลต่ำกว่า 3 กิโลกรัม
โดยราคาผลผลิตนั้นมีความเปลี่ยนแปลงตามกลไกตลาดอยู่เสมอ แต่โดยเฉลี่ยแล้วแตงโมแต่ละเกรดจะมีราคาต่างกันอยู่ประมาณ 2-3 บาท/กก. เท่ากับว่ายิ่งเกษตรกรสามารถปลูกแตงโมได้เป็น “เกรดเอ” มากเท่าไหร่ ก็สามารถเพิ่มรายได้มากขึ้นเท่านั้น
แตงโมเกรดเอ น้ำหนักผลประมาณ 4-7 กิโลกรัม เนื้อแน่น หวาน กรอบ อร่อย
ทั้งนี้ แม้ว่า “ขนาดผล” จะเป็นสิ่งสำคัญ แต่อีกปัจจัยที่เป็นตัวชี้วัดคุณภาพ คือ “รสชาติ” ซึ่งจุดนี้เป็นจุดปราบเซียนของผู้ปลูกแตงโมมาก เนื่องจากผู้รับซื้อและผู้บริโภคจะทราบว่าแตงโมนั้นมีเนื้อดี สีแดงสวย รสชาติหวานหรือไม่ ก็ต่อเมื่อได้ผ่าผลแล้ว หากแตงโมผลใหญ่อย่างเดียวแต่คุณภาพเนื้อไม่ดี จะทำให้เกษตรกรเสียเครดิต หาตลาดลำบาก
คุณการะเวกบอกว่า จุดนี้แก้ปัญหาได้ไม่ยาก เพราะว่า “แตงโมที่เนื้อแน่น หวาน กรอบ อร่อย นั้นอยู่ที่การบำรุงเป็นหลัก” หากเกษตรกรใส่ใจในการบำรุงให้เหมาะสมตามระยะการเจริญเติบโต นอกจากจะได้แตงโมไซส์เกรดเอแล้ว ยังมั่นใจได้ว่ารสชาติดี เนื้อแน่น หวาน กรอบ ลูกค้าติดใจแน่นอน
โดยคุณการะเวก จะเน้นการบำรุงใน 2 ช่วงสำคัญของแตงโม ดังนี้
ระยะแตงโมผลเล็ก ต้องเน้นการบำรุงทั้งเถาและผล
เพื่อให้เถาแตงโมให้เดินยอดดี ใบเขียวสมบูรณ์ พร้อมสะสมอาหารเพื่อนำไปเลี้ยงผล
1. ระยะติดดอก-ผลเล็ก (แตงโมอายุ 30-35 วัน) จะบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16- 16-16 บลู ผ่านระบบน้ำหยด โดยใช้อัตรา 4-5 กก. ต่อน้ำ 100 ลิตร เพื่อช่วยบำรุงเถาแตงโมให้เดินยอดดี ใบเขียวเข้ม สามารถสังเคราะห์แสงได้ดี พร้อมสะสมอาหารเพื่อนำไปเลี้ยงผล และช่วยให้การติดผลสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งคุณการะเวกบอกว่า การบำรุงแตงโมนั้นต้องให้ความสำคัญกับทุกส่วน ทั้งใบ เถา ดอก ผล หากเกษตรกรเร่งบำรุงเฉพาะช่วงที่แตงโมติดผลแล้วเพียงอย่างเดียว อาจทำให้แตงโมมีอาการ “ไส้แตก” ได้
ช่วงแตงโมอายุ 45-50 วัน บำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 9-25-25 อัตรา 5 กก./ไร่ ผสมกับ
ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 0-0-60 ช่วยขยายผลแตงโมให้ลูกใหญ่ เนื้อกรอบแน่น สีแดงสวย
2. ระยะขยายผล (แตงโมอายุ 45-50 วัน) บำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 9-25-25 อัตรา 5 กก./ไร่ ผสมกับปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 0-0-60 อัตรา 1 กก./ไร่ (สัดส่วน 5:1) ผ่าน ระบบน้ำหยด เพื่อช่วยในการขยายผลแตงโมให้ลูกใหญ่ เนื้อกรอบแน่น สีแดงสวย ช่วยสร้างความหวาน ให้แตงโมรสชาติดี โดยผลผลิตเฉลี่ยของคุณการะเวกนั้นสูงถึง 6 ตัน/ไร่ และที่สำคัญคือเป็น “เกรดเอ” มากกว่า 70% ทำให้ขายง่าย เป็นที่ต้องการของตลาด ผู้ซื้อรับไปขายต่อก็ไว้ใจในคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นยาวนานกว่า 20 ปี
ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู เม็ดปุ๋ยสีฟ้า ละลายง่าย กากน้อย ไม่ทำให้ระบบน้ำหยดอุดตัน
ทั้งนี้ คุณการะเวกเน้นว่า หากเกษตรกรให้ปุ๋ยทางระบบน้ำหยด จำเป็นต้องเลือกใช้ปุ๋ยที่ละลายได้ดี เนื่องจากสายน้ำหยดนั้นอยู่ใต้พลาสติกคลุมแปลง หากเกิดการอุดตันจากกากปุ๋ยจะสังเกตได้ค่อนข้างยาก ซึ่งคุณการะเวกเผยว่า จากการใช้ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู มาอย่างต่อเนื่องพบว่า เม็ดปุ๋ยละลายได้ดีจริง ไม่สร้างความเสียหายให้ระบบจ่ายน้ำ ทำให้แตงโมได้รับน้ำอย่างไม่ขาดช่วง
แตงโมเกรดเอ น้ำหนัก 4-6 กก. อายุใกล้เก็บเกี่ยว
ผลผลิตมีคุณภาพ ตลาดให้ความเชื่อมั่น ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่น
ในช่วงแรกที่เริ่มปลูก คุณการะเวกจะเป็นคนลุยหาตลาดเองทั้งหมด เนื่องจากยังไม่มีฐานลูกค้ามาก่อน เมื่อเริ่มเป็นที่รู้จัก พูดกันปากต่อปากในหมู่พ่อค้าปลายทางมากขึ้น เนื่องจากผลผลิตที่แปลงนั้นมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เป็นเกรดเอสูง นำไปขายต่อก็ไม่ผิดหวัง จากนั้นก็เริ่มมีผู้มารับซื้อผลผลิตถึงแปลง คุณการะเวกจึงค่อยๆ ขยายพื้นที่ปลูกจากหลักสิบเป็นหลักร้อยไร่ เพื่อให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดต่อเนื่องตลอดทั้งปี
สำหรับการวางแผนปลูกแตงโมของคุณการะเวกนั้น จะปลูกประมาณ 3-4 รอบ/ปี หมุนเวียนบนพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ ซึ่งปัจจุบันแรงงานภาคการเกษตรเริ่มหายากและมีราคาสูงขึ้น คุณการะเวกจึงปรึกษากับลูกชายเพื่อนำเทคโนโลยีทางการเกษตรอย่าง “โดรน” มาเป็นตัวช่วยในการจัดการภายในแปลง เช่น การฉีดฮอร์โมนเสริมเพื่อการติดลูกที่ดีขึ้น หรือการฉีดพ่นสารป้องกันศัตรูพืช ทำให้ใช้แรงงานคนลดลงมาก โดยในพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ นั้นใช้แรงงานเพียง 3 คน (จากเดิม 8 คน) ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ในระยะยาว ถือเป็นการผสมผสานรูปแบบการทำเกษตรของคน 2 รุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้ “โดรน” ในการฉีดพ่นสารป้องกันศัตรูพืช ช่วยลดแรงงานคนได้มากกว่าเท่าตัว
กว่าจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางธุรกิจแตงโมกว่า 20 ปี จากจุดที่ต้องตระเวนหาผู้รับซื้อเอง จนปัจจุบันนั้นมีตลาดวิ่งเข้าหา คุณการะเวก ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วย “คุณภาพ” ผลผลิตมาอย่างยาวนาน ซึ่งการปลูกแตงโมให้ได้เกรดเอตอบโจทย์ตลาดนั้น ต้องอาศัยความใส่ใจตั้งแต่การเลือกพื้นที่ปลูก การคัดเลือกสายพันธุ์ และที่ขาดไม่ได้คือการบำรุงดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ ครบตามช่วงการเจริญเติบโตของพืช เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้แตงโมได้ผลผลิตสูงถึง 6 ตัน/ไร่ และมี คุณภาพดีชัวร์!
สามารถติดตามสาระเกษตรน่ารู้ ได้ที่
คลิก “ปลูกแตงโม ให้ลูกใหญ่ เกรดเอ เนื้อแน่น เก็บขายได้ทุกลูก”
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ข้อมูลสินค้า และข่าวสารจากปุ๋ยตรากระต่าย เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: www.facebook.com/puitrakratai/
YouTube: www.youtube.com/c/Puitrakratai
TikTok: https://www.tiktok.com/@puitrakratai
ข้อมูลสินค้าปุ๋ยตรากระต่าย : https://www.chiataigroup.com/business/fertilizer/Puitrakratai-Fruits-Vegetables