“แตงโม” พืชอายุสั้น จับเงินไว! ปลูกยังไงให้ได้ผลผลิต 6 ตัน/ไร่ เป็นเกรดเอมากกว่า 70%

       “แตงโมเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ทุกภาค ทุกฤดู และที่สำคัญคืออายุเก็บเกี่ยวสั้นเพียงประมาณ 2 เดือน จึงนิยมปลูกเป็นพืชคั่นสลับกับการปลูกพืชชนิดอื่น เช่น ปลูกเป็นพืชหลังนา และสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้ไม่น้อย จนบางครั้งอาจจะมากเสียจนหลายคนหันมาปลูกแตงโมเป็นอาชีพหลักเลยทีเดียว นอกจากนี้ จุดเด่นของแตงโม คือ เป็นพืชที่ทนอากาศร้อน ใช้น้ำในการเพาะปลูกเฉลี่ยเพียง 655 ลบ.ม./ไร่ จึงเป็นพืชน้ำน้อยตามคำแนะนำของกรมส่งเสริมการเกษต โดยหากมีการวางแผนการปลูกและปรับปรุงดินอย่างมีประสิทธิภาพ ก็สามารถปลูกได้ถึง 3-4 รอบ/ปีเลยทีเดียว 

 

       วันนี้เราจะพาไปเจาะเคล็ดลับการปลูกแตงโมชั้นเซียนกับ คุณการะเวก ก่วยจีนอ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร หรือที่คนในวงการแตงโมเรียกกันว่า ป๋าเวก ถือเป็น ผู้บุกเบิก
การปลูกแตงโมระดับ
หลักหลายร้อยไร่ ใน จ.กำแพงเพชร โดยมีจุดเริ่มต้นจากพื้นที่ปลูกเพียง 7 ไร่เท่านั้น 

 

       บนเส้นทางการปลูกแตงโมกว่า 20 ปี กว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องตามไปดูกันว่า มีสูตรเด็ดเคล็ดลับอะไรที่ทำให้ประสบความสำเร็จขนาดนี้! 

พื้นที่แปลงแตงโมร่วมร้อยไร่ของคุณการะเวก 

 

 

ปลูกแตงโมพลิกชีวิต  เริ่มจากศูนย์ จนสร้างรายได้มั่นคงนานกว่า 20 ปี  

 

       คุณการะเวกเล่าให้ฟังว่า ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีที่แล้ว ตนเองเป็นเกษตรกรปลูกอ้อยและมันสำปะหลังอยู่ที่.กาญจนบุรี ซึ่งมีรายได้ที่ไม่ดีนัก จึงได้ย้ายถิ่นฐานมาปลูกแตงโมที่ จ.กำแพงเพชร เนื่องจากเห็นว่าเป็นพืชอายุสั้นแค่ประมาณสองเดือน ต่างจากอ้อยที่ต้องรอเวลาร่วมปีกว่าจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิต  

 

       ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นการปลูกแตงโมของคุณการะเวกนั้น ไม่มีความรู้มาก่อน จึงอาศัยศึกษาวิธีปลูกจากเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอเป็นหลัก ลองเริ่มปลูกแตงโมครั้งแรกบนพื้นที่ประมาณ
7
ไร่ จากนั้นก็ค่อยๆ ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นจากหลักสิบ เป็นหลักร้อย จนปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกอยู่ร่วม
500 ไร่/ปี ผลิตแตงโมส่งขายทั่วประเทศ สร้างรายได้หมุนเวียนหลักล้านบาท
เลยทีเดียว
 
 

 

       คุณการะเวกเผยว่า จุดสำคัญที่ทำให้แตงโมขายได้ราคาต้องอยู่ที่ คุณภาพของผลผลิตเป็นหลัก โดยแตงโม เกรดเอที่ตลาดต้องการนั้นต้องมีขนาด 4-7 กิโลกรัม เนื้อแดง รสหวานกรอบ  ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้มีปัจจัยสำคัญมาจากสายพันธุ์ เกษตรกรต้องศึกษาความต้องการของตลาด และคัดเลือกสายพันธุ์ที่ปลูกให้ตรงความต้องการผู้บริโภค ก็ทำให้มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว โดยแตงโมสายพันธุ์ที่คุณการะเวกปลูกมากที่สุดคือซอนญ่า พลัสเนื่องจากมีลักษณะตรงตามความต้องการของตลาด คือ เนื้อดี แดงแปร๊ด หวานเจี๊ยบ ใครกินก็ติดใจ และที่สำคัญคือมีผิวเหนียวทนแรงกระแทกและการขนส่งได้ดี ผู้รับซื้อไปขายต่อก็พอใจ เพราะผลผลิตไม่เสียหาย ผิวไม่ช้ำ วางจำหน่ายได้นาน

ซอนญ่า พลัสแตงโมเนื้อดี แดงแปร๊ด หวานเจี๊ยบ สายพันธุ์ที่ตลาดต้องการ แตงโมเกรดเอขนาด 4-7 กิโลกรัมต่อลูก 

 

 

ปรับปรุงพื้นที่-จัดการแปลงอย่างเหมาะสม เรื่องพื้นฐานที่ควรให้ความสำคัญ 

       แม้ว่าแตงโมนั้นสามารถปลูกในดินเกือบทุกชนิด แต่ก็ไม่ชอบพื้นที่แฉะ เนื่องจากเสี่ยงต่อโรคทางใบและผลแตงโมจะเน่าง่าย  

 

       คุณการะเวกแนะนำว่า หากเป็นเกษตรกรรายใหม่ที่ต้องการเช่าพื้นที่ปลูกแตงโม ควรพิจารณาว่าจะปลูกแตงโมในช่วงเดือนไหนเป็นหลัก หากต้องการจะปลูก ช่วงหน้าฝน
ควรเลือกปลูกในพื้นที่
ดินร่วนปนทรายเนื่องจากดินมีคุณสมบัติระบายน้ำได้ดี แต่หากปลูก ช่วงหน้าแล้งอาจเลือกปลูกใน ดินร่วนเหนียว ซึ่งเป็นดินที่อุ้มน้ำได้ดี
ไม่ต้องใช้น้ำมาก 
 

 

       นอกจากนี้ ก่อนปลูกต้องสำรวจพื้นที่ก่อนว่ามีทางระบายน้ำเพียงพอหรือไม่ หากไม่มี ต้องปรับพื้นที่ทำทางน้ำไหลให้เรียบร้อย ก็จะลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมได้มาก  

 

ใช้รถแทรกเตอร์ยกร่องให้สูงประมาณ 30-50 ซม. เว้นระยะห่างระหว่างร่องประมาณ 4.5 เมตร 

 

 
       เมื่อเราได้พื้นที่ที่เหมาะสมแล้วก็ต้องมีการบำรุง-ปรับสภาพดินให้สมบูรณ์  พร้อมสำหรับการปลูกด้วย โดยคุณการะเวกจะเตรียมดินโดยไถพรวน 2-3 รอบ เพื่อปรับสภาพดินและตากดินทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อลดความเป็นกรดในดิน และฆ่าเชื้อโรค เชื้อราในดิน 

 

หลังจากวางสายน้ำหยดเรียบร้อยแล้ว จะคลุมด้วยพลาสติกคลุมแปลงเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนย้ายกล้าลงปลูก 

 

 
       จากนั้นจะทำการยกร่องให้สูงประมาณ 30-50 ซม. เว้นระยะห่างระหว่างร่องประมาณ 4.5 เมตร ช่วยให้ระบายน้ำได้ดี และทำให้แตงโมมีพื้นที่เดินเถาได้เต็มที่ สำหรับระยะห่างระหว่างต้นอยู่ที่ประมาณ 50 ซม. เพื่อไม่ให้ต้นหนาแน่นจนเกินไปและติดลูกดี 

  

       เมื่อขึ้นแปลงเรียบร้อยแล้ว คุณการะเวกจะรองพื้นด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 15-15-15 เพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดินเตรียมพร้อมสำหรับลงต้นกล้า จากนั้นจะวางสายน้ำหยดตาม
ความยาวแปลงปลูก และคลุมด้วยพลาสติกคลุมแปลงที่เจาะหลุมปลูกตามระยะที่กำหนดไว้ เป็นขั้นตอนสุดท้าย
 

  

การจัดเถา-ต่อดอก-ไว้ลูก เทคนิคง่ายๆ ต้องรู้ ก่อนปลูกแตงโม  

 

       คุณการะเวก กำลังจัดเถาแตงโม เพื่อไม่ให้เถาเลื้อยพาดทับกัน จนทำให้อากาศในแปลงไม่ถ่ายเท  

 
       การปลูกแตงโมนั้นไม่ใช่แค่เพียงเพาะเมล็ด ให้น้ำ ใส่ปุ๋ย แล้วรอเก็บเกี่ยวผลผลิตเลย ในระหว่างเพาะปลูกเกษตรกรต้องทำหน้าที่คล้าย พี่เลี้ยง ช่วยดูแลอยู่ตลอด เพื่อให้แตงโมได้น้ำหนักดี เป็นเกรดเอสูง 

 

       โดยเทคนิคการดูแลที่คุณการะเวก แนะนำเพื่อให้ได้ผลผลิตกว่า 6 ตัน/ไร่ ได้ทั้งปริมาณและคุณภาพ มีดังนี้ 

คุณการะเวก กำลังจัดเถาแตงโม เพื่อไม่ให้เถาเลื้อยพาดทับกัน จนทำให้อากาศในแปลงไม่ถ่ายเท 

 

       1. การจัดเถา เมื่อเถามีความยาวประมาณ 30-60 ซม. คุณการะเวกจะคัดเลือกเถาที่สมบูรณ์ไว้เพียง 4 เถาต่อต้น และจัดระเบียบเถาแตงโมให้เลื้อยไปทางเดียวกัน หากปล่อย
ตามธรรมชาติเถาจะเลื้อยพาดทับกัน
ทำให้แปลงทึบ อากาศไม่ถ่ายเท เมื่อแตงโมติดผลจะทำให้ผลเล็ก เจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่
 

การต่อดอก หรือผสมเกสร ควรทำในช่วงเวลา 07.00 น.-09.00 น.
เนื่องจากดอกตัวเมียจะบานในช่วงเช้า และดอกตัวผู้ยังคงมีละอองเกสรสมบูรณ์  

 

       2. การต่อดอก ช่วงแตงโมอายุประมาณ 30-35 วัน แตงโมจะเริ่มติดดอก คุณการะเวกจะเริ่มทำการต่อดอก หรือผสมเกสร ในช่วงเวลา 07.00 น.-09.00 น. เนื่องจาก
ดอกตัวเมียจะบานในช่วงเช้า
 และดอกตัวผู้ยังคงมีละอองเกสรสมบูรณ์ 
ช่วยให้แตงโมติดผลแน่นอน ทั้งนี้คุณการะเวก เสริมว่า ปัจจุบันการผสมเกสรอาจใช้วิธีฉีดพ่นฮอร์โมนผสมเทียม ช่วยลดระยะเวลาการทำงานและกำลังคนได้ แต่การผสมเกสรด้วยมือจะมีโอกาสการติดผลได้สูงกว่า

       3. การไว้ลูก ปกติคุณการะเวกจะเลือกไว้ผลแตงโมไว้ 4 ผลต่อต้น โดยจะเลือกตำแหน่งไว้ลูกข้อที่ 10 เป็นต้นไป เพื่อให้ได้แตงโมขนาดผลใหญ่ โดยหากติดผลข้อต้นๆ
เช่น ข้อที่
6 หรือ 7 จะปลิดทิ้งทั้งหมด เพราะนอกจากจะแย่งอาหารแล้ว ยังทำให้ผลผลิตที่ได้ไม่มีคุณภาพ 

 

 

หลักการให้ “น้ำ” เรื่องสำคัญที่ห้ามพลาด เพื่อแตงโมทรงสวย ได้คุณภาพ 

 
       คุณการะเวก เน้นย้ำ การให้ น้ำเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพของแตงโมมาก เนื่องจากแตงโมนั้นเป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 90% หากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผลเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ ทรงไม่สวย มีอาการหัว-ท้ายผลไม่เสมอ กลายเป็นแตงโมตกเกรดไปทันที 

  

ระบบน้ำหยด จะให้ปริมาณน้ำสม่ำเสมอ เพื่อให้ผลแตงโมได้รับน้ำเพียงพอครบทุกช่วงการเจริญเติบโต  

 
 

       ซึ่งหลักการให้น้ำแตงโมที่คุณการะเวกใช้นั้นก็คือ ให้น้อย แต่สม่ำเสมอ เนื่องจากธรรมชาติของแตงโมนั้นเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมากอยู่แล้ว ใช้เพียง ระบบน้ำหยด ก็เพียงพอต่อความต้องการ โดยการให้น้ำจะแตกต่างในแต่ละระยะดังนี้ 

 

       - ระยะแตงโมผลเล็ก (หลังการย้ายกล้า - อายุ 45 วัน) จะให้น้ำประมาณ 30 นาที/วัน ต่อเนื่องทุกวันจนติดผลเล็ก 


       - ระยะแตงโมผลใหญ่ (อายุ 45-50 วัน) จะเริ่มเพิ่มปริมาณน้ำมากขึ้น โดยจะใช้เวลาให้น้ำ 1-1.30 ชม./วัน ต่อเนื่องทุกวันจนเก็บเกี่ยวผลผลิต 

  

 

เคล็ดลับการบำรุงตาทระยะการเจริญเติบโต เพื่อแตงโม “เกรดเอ” ใครได้กินก็ติดใจ! 

 

       ในการจำหน่ายแตงโมนั้นมีเกณฑ์การวัดคุณภาพอยู่ที่ขนาดผโดยจะแบ่งออกเป็น 3 เกรดหลัก คือ  

 

       - เกรดเอ น้ำหนักผลประมาณ 4-7 กิโลกรัม 

       - เกรดบี น้ำหนักผลประมาณ 3-4 กิโลกรัม 

       - เกรดซี น้ำหนักผลต่ำกว่า 3 กิโลกรัม 

 
       โดยราคาผลผลิตนั้นมีความเปลี่ยนแปลงตามกลไกตลาดอยู่เสมอ แต่โดยเฉลี่ยแล้วแตงโมแต่ละเกรดจะมีราคาต่างกันอยู่ประมาณ 2-3 บาท/กก. เท่ากับว่ายิ่งเกษตรกรสามารถปลูกแตงโมได้เป็นเกรดเอมากเท่าไหร่ ก็สามารถเพิ่มรายได้มากขึ้นเท่านั้น 

แตงโมเกรดเอ น้ำหนักผลประมาณ 4-7 กิโลกรัม เนื้อแน่น หวาน กรอบ อร่อย 

 

 

       ทั้งนี้ แม้ว่าขนาดผลจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่อีกปัจจัยที่เป็นตัวชี้วัดคุณภาพ คือรสชาติซึ่งจุดนี้เป็นจุดปราบเซียนของผู้ปลูกแตงโมมาก เนื่องจากผู้รับซื้อและผู้บริโภคจะทราบว่าแตงโมนั้นมีเนื้อดี สีแดงสวย รสชาติหวานหรือไม่ ก็ต่อเมื่อได้ผ่าผลแล้ว หากแตงโมผลใหญ่อย่างเดียวแต่คุณภาพเนื้อไม่ดี จะทำให้เกษตรกรเสียเครดิต หาตลาดลำบาก 

 

       คุณการะเวกบอกว่า จุดนี้แก้ปัญหาได้ไม่ยาก เพราะว่าแตงโมที่เนื้อแน่น หวาน กรอบ อร่อย นั้นอยู่ที่การบำรุงเป็นหลัก หากเกษตรกรใส่ใจในการบำรุงให้เหมาะสมตามระยะการเจริญเติบโต นอกจากจะได้แตงโมไซส์เกรดเอแล้ว ยังมั่นใจได้ว่ารสชาติดี เนื้อแน่น หวาน กรอบ ลูกค้าติดใจแน่นอน 

 

       โดยคุณการะเวก จะเน้นการบำรุงใน 2 ช่วงสำคัญของแตงโม ดังนี้  

ระยะแตงโมผลเล็ก ต้องเน้นการบำรุงทั้งเถาและผล
เพื่อให้เถาแตงโมให้เดินยอดดี ใบเขียวสมบูรณ์
 พร้อมสะสมอาหารเพื่อนำไปเลี้ยงผล 

 
 

       1. ระยะติดดอก-ผลเล็ก (แตงโมอายุ 30-35 วัน) จะบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16- 16-16 บลู ผ่านระบบน้ำหยด โดยใช้อัตรา 4-5 กก. ต่อน้ำ 100 ลิตร เพื่อช่วยบำรุงเถาแตงโมให้เดินยอดดี ใบเขียวเข้ม สามารถสังเคราะห์แสงได้ดี พร้อมสะสมอาหารเพื่อนำไปเลี้ยงผล และช่วยให้การติดผลสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งคุณการะเวกบอกว่า การบำรุงแตงโมนั้นต้องให้ความสำคัญกับทุกส่วน ทั้งใบ เถา ดอก ผล หากเกษตรกรเร่งบำรุงเฉพาะช่วงที่แตงโมติดผลแล้วเพียงอย่างเดียว อาจทำให้แตงโมมีอาการไส้แตกได้ 

ช่วงแตงโมอายุ 45-50 วัน บำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 9-25-25 อัตรา 5 กก./ไร่ ผสมกับ 
ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 0-0-60 ช่วยขยายผลแตงโมให้ลูกใหญ่ เนื้อกรอบแน่น สีแดงสวย 

 

 

        2. ระยะขยายผล (แตงโมอายุ 45-50 วัน) บำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 9-25-25 อัตรา 5 กก./ไร่ ผสมกับปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 0-0-60 อัตรา 1 กก./ไร่ (สัดส่วน 5:1) ผ่าน ระบบน้ำหยด เพื่อช่วยในการขยายผลแตงโมให้ลูกใหญ่ เนื้อกรอบแน่น สีแดงสวย ช่วยสร้างความหวาน ให้แตงโมรสชาติดี โดยผลผลิตเฉลี่ยของคุณการะเวกนั้นสูงถึง 6 ตัน/ไร่ และที่สำคัญคือเป็นเกรดเอมากกว่า 70% ทำให้ขายง่าย เป็นที่ต้องการของตลาด ผู้ซื้อรับไปขายต่อก็ไว้ใจในคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นยาวนานกว่า 20 ปี 

 ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู เม็ดปุ๋ยสีฟ้า ละลายง่าย กากน้อย ไม่ทำให้ระบบน้ำหยดอุดตัน 

 

 
       ทั้งนี้ คุณการะเวกเน้นว่า หากเกษตรกรให้ปุ๋ยทางระบบน้ำหยด จำเป็นต้องเลือกใช้ปุ๋ยที่ละลายได้ดี เนื่องจากสายน้ำหยดนั้นอยู่ใต้พลาสติกคลุมแปลง หากเกิดการอุดตันจากกากปุ๋ยจะสังเกตได้ค่อนข้างยาก ซึ่งคุณการะเวกเผยว่า จากการใช้ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู มาอย่างต่อเนื่องพบว่า เม็ดปุ๋ยละลายได้ดีจริง ไม่สร้างความเสียหายให้ระบบจ่ายน้ำ ทำให้แตงโมได้รับน้ำอย่างไม่ขาดช่วง 

แตงโมเกรดเอ น้ำหนัก 4-6 กก. อายุใกล้เก็บเกี่ยว 

 

 

ผลผลิตมีคุณภาพ ตลาดให้ความเชื่อมั่น ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่น 

 

       ในช่วงแรกที่เริ่มปลูก คุณการะเวกจะเป็นคนลุยหาตลาดเองทั้งหมด เนื่องจากยังไม่มีฐานลูกค้ามาก่อน เมื่อเริ่มเป็นที่รู้จัก พูดกันปากต่อปากในหมู่พ่อค้าปลายทางมากขึ้น เนื่องจากผลผลิตที่แปลงนั้นมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เป็นเกรดเอสูง นำไปขายต่อก็ไม่ผิดหวัง จากนั้นก็เริ่มมีผู้มารับซื้อผลผลิตถึงแปลง คุณการะเวกจึงค่อยๆ ขยายพื้นที่ปลูกจากหลักสิบเป็นหลักร้อยไร่ เพื่อให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดต่อเนื่องตลอดทั้งปี 

 

       สำหรับการวางแผนปลูกแตงโมของคุณการะเวกนั้น จะปลูกประมาณ 3-4 รอบ/ปี หมุนเวียนบนพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ ซึ่งปัจจุบันแรงงานภาคการเกษตรเริ่มหายากและมีราคาสูงขึ้น คุณการะเวกจึงปรึกษากับลูกชายเพื่อนำเทคโนโลยีทางการเกษตรอย่าง โดรน มาเป็นตัวช่วยในการจัดการภายในแปลง เช่น การฉีดฮอร์โมนเสริมเพื่อการติดลูกที่ดีขึ้น หรือการฉีดพ่นสารป้องกันศัตรูพืช ทำให้ใช้แรงงานคนลดลงมาก โดยในพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ นั้นใช้แรงงานเพียง 3 คน (จากเดิม 8 คน) ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ในระยะยาว ถือเป็นการผสมผสานรูปแบบการทำเกษตรของคน 2 รุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

การใช้โดรนในการฉีดพ่นสารป้องกันศัตรูพืช ช่วยลดแรงงานคนได้มากกว่าเท่าตัว 

 

 
       กว่าจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางธุรกิจแตงโมกว่า 20 ปี จากจุดที่ต้องตระเวนหาผู้รับซื้อเอง จนปัจจุบันนั้นมีตลาดวิ่งเข้าหา คุณการะเวก ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยคุณภาพผลผลิตมาอย่างยาวนาน ซึ่งการปลูกแตงโมให้ได้เกรดเอตอบโจทย์ตลาดนั้น ต้องอาศัยความใส่ใจตั้งแต่การเลือกพื้นที่ปลูก การคัดเลือกสายพันธุ์ และที่ขาดไม่ได้คือการบำรุงดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ ครบตามช่วงการเจริญเติบโตของพืช เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้แตงโมได้ผลผลิตสูงถึง 6 ตัน/ไร่ และมี คุณภาพดีชัวร์! 

สามารถติดตามสาระเกษตรน่ารู้ ได้ที่  

คลิก “ปลูกแตงโม ให้ลูกใหญ่ เกรดเอ เนื้อแน่น เก็บขายได้ทุกลูก 

ติดตามข่าวสารอื่นๆ ข้อมูลสินค้า และข่าวสารจากปุ๋ยตรากระต่าย เพิ่มเติมได้ที่ 

Facebook: www.facebook.com/puitrakratai/ 

YouTube: www.youtube.com/c/Puitrakratai 

TikTok: https://www.tiktok.com/@puitrakratai 

ข้อมูลสินค้าปุ๋ยตรากระต่าย : https://www.chiataigroup.com/business/fertilizer/Puitrakratai-Fruits-Vegetables