เกษตรกรมืออาชีพ เผยเทคนิค “ปลูกแตงโมหลังนา” ผลผลิตสูง 7 ตันต่อไร่ เป็นเกรดเอ 90 เปอร์เซ็นต์ สร้างรายได้หลักแสน

       “แตงโม” เป็นพืชที่สามารถปลูกได้ทุกภาค ทุกฤดู ทนสภาพอากาศร้อนได้ดี จัดอยู่ในกลุ่มพืชใช้น้ำน้อย และเป็นพืชอายุสั้น สามารถเก็บผลผลิตได้ในเวลา 57- 65 วันเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์) จึงเหมาะกับการปลูกเป็นพืชหมุนเวียน ช่วยฟื้นฟูสภาพดิน อีกทั้งยังสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี

 

       วันนี้ เราจะพาไปศึกษาแนวทางความสำเร็จของคุณสมศักดิ์ กระต่ายทอง เกษตรกรมืออาชีพ แห่งอำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ที่ใช้หลักการบริหารพื้นที่อย่างคุ้มค่าด้วยการ “ปลูกแตงโมหลังนา” ซึ่งแม้จะมีพื้นที่เพียงไม่กี่ไร่ แต่กลับสามารถสร้างรายได้หลักแสนเลยทีเดียว

 

       คุณสมศักดิ์ เผยว่า ปัจจุบันมีพื้นที่ทำเกษตรทั้งหมด 25 ไร่ สำหรับปลูกข้าวเป็นพืชหลัก และหลังฤดูเก็บเกี่ยวจะแบ่งพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ ไว้ปลูกแตงโมเป็นพืชรอง เพราะแตงโมมีข้อดีหลายอย่าง ทั้งเป็นพืชอายุสั้น ทำเงินได้ไว ตลาดมีความต้องการสูง โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน เรียกได้ว่า “มีเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย” ถือเป็นโอกาสทองของเกษตรกรผู้ปลูกแตงโมเลยก็ว่าได้ แต่ก็ต้องทำผลผลิตให้ได้คุณภาพด้วยเช่นกัน

 

       ดังนั้น คุณสมศักดิ์ จึงให้ความใส่ใจในทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การเตรียมเมล็ดพันธุ์ การเตรียมแปลง การบำรุงธาตุอาหารตามระยะการเจริญเติบโต รวมถึงการจัดการแปลงอย่างการตัดแขนงและไว้ผล ทำให้ได้ผลผลิตสูงถึง 7 ตันต่อไร่ เป็นเกรดเอมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อผลผลิตได้คุณภาพ จึงมั่นใจในการทำตลาดด้วยตนเอง ปลูกเอง-ขายเองแบบครบวงจร ช่วยเพิ่มกำไรได้มากขึ้นกว่าเดิมไปอีก

       จาก “พื้นที่ทำนา” สู่ “แปลงแตงโม” ผลผลิตสูง 7 ตันต่อไร่ เป็นเกรดเอมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ คุณสมศักดิ์ มีเทคนิคอย่างไร? ไปติดตามกันได้เลย!

คุณสมศักดิ์ กระต่ายทอง เกษตรกรผู้ปลูกแตงโม แห่งอำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี

 

เคล็ดลับเตรียมแปลงและเพาะเมล็ดพันธุ์

เพื่อต้นกล้าโตสม่ำเสมอ

 

       โดยปกติแล้วพื้นที่ปลูกข้าวมักเป็นดินที่ถูกน้ำขังมานาน ทำให้โครงสร้างดินแน่นทึบ มีการระบายน้ำได้ต่ำ หากนำ “แตงโม” มาปลูกบนแปลงนาที่ไม่ได้รับการปรับปรุงสภาพดิน อาจทำให้รากพืช ขาดอากาศ เจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ เสี่ยงต่อการเกิดปัญหารากเน่า หรือต้นแคระแกร็น ทำให้ผลผลิตตกต่ำในที่สุด

 

       ดังนั้น คุณสมศักดิ์ จึงให้ความสำคัญกับการเตรียมแปลงเป็นอย่างมาก โดยหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว จะเริ่มไถดะด้วยผาน 5 เพื่อพลิกหน้าดินพร้อมไถกลบเศษฟางและวัชพืชไปในตัว โดยจะทำการไถ 1-2 รอบตามความหนาแน่นของดิน  เสร็จแล้วจะตากดินทิ้งไว้ 7 วัน เพื่อฆ่าเชื้อโรคในดิน

 

       จากนั้นทำการยกร่องปลูกสูง 10 เซนติเมตร เพื่อให้การระบายน้ำในแปลงดีขึ้น และเว้นระยะห่างระหว่างร่อง 4 เมตร ให้เพียงพอสำหรับเถาแตงโมเลื้อย ตามด้วยการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ อัตรา 15-20 กิโลกรัมต่อไร่ โดยโรยบนสันร่องปลูก เพื่อเติมอินทรีย์วัตถุและช่วยปรับสภาพดินให้ร่วนซุยมากขึ้น เสร็จแล้วจะวางสายน้ำหยด และคลุมผ้าพลาสติกคลุมแปลงเป็นขั้นตอนสุดท้าย

การวางแปลงควรมีระยะห่างที่เหมาะสมเพียงพอให้เถาแตงโมเลื้อย เพื่อให้ได้ผลผลิตได้คุณภาพสูงสุด

 

       สำหรับขั้นตอนการเตรียมเมล็ดพันธุ์ก่อนปลูก คุณสมศักดิ์ จะนำเมล็ดพันธุ์แตงโมแช่น้ำไว้ 1 วัน จากนั้นนำขึ้นมาห่อด้วยผ้าขาวและฝังกลบดินไว้ 2 คืน (โดยใช้ดินบรรจุถุงสำหรับเพาะปลูก) เพื่อให้เมล็ดพันธุ์งอกได้ดีขึ้น เสร็จแล้วจะนำไปหยอดในถาดเพาะกล้าต่อ  โดยใช้เวลาประมาณ  9-10 วัน ก็สามารถย้ายลงแปลงปลูกได้

เทคนิคการเตรียมเมล็ดพันธุ์ก่อนปลูกฉบับคุณสมศักดิ์ ช่วยให้ต้นกล้างอกดี โตสม่ำเสมอ

 

       คุณสมศักดิ์ เผยว่า เทคนิคการเพาะกล้าด้วยวิธีนี้มีข้อดีคือ จะทำให้ต้นแตงโมเจริญเติบโตอย่างสม่ำเสมอ และมีระยะเท่าๆกัน ทั้งการเดินยอดและการแตกแขนง ส่งผลให้การออกดอก-ติดผลในแต่ละแขนงจะอยู่ในตำแหน่งระนาบเดียวกัน ช่วยให้การจัดการภายในแปลงง่ายขึ้น

 

การให้น้ำและบำรุงธาตุอาหาร “หลังย้ายกล้า”

ช่วงเวลาสำคัญที่ไม่ควรพลาด!

 

       หลังการย้ายกล้าแตงโมลงแปลง เป็นช่วงเวลาที่ต้นกำลังปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ หากขาดน้ำหรือธาตุอาหารในช่วงนี้ จะทำให้ต้นตั้งตัวได้ช้า หรือการเจริญเติบโตหยุดชะงักจนส่งผลต่อผลผลิตในระยะยาวได้

        

       คุณสมศักดิ์ จึงแบ่งการบำรุงออกเป็น 2 ช่วง โดยประยุกต์ให้ปุ๋ยผ่านสายน้ำหยด โดยประยุกต์ให้ปุ๋ยผ่านสายน้ำหยด ถือเป็นการบำรุงธาตุอาหารและให้น้ำในขั้นตอนเดียว ดังนี้

 

       - ช่วงแตงโมหลังย้ายกล้า 3-4 วัน (ระยะต้นเล็ก)

 

       หลังการย้ายกล้าเป็นช่วงเวลาที่ต้นแตงโมระบบรากยังไม่แข็งแรง จะบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู ผ่านสายน้ำหยด อัตรา 0.5 กิโลกรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร ต่อพื้นที่ 1 ไร่ ความถี่วันเว้นวัน เพื่อเร่งการแตกตัวของราก ช่วยให้ต้นดูดซับธาตุอาหารได้ไว และเสริมความแข็งแรงของต้น

ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู ช่วยเร่งการแตกตัวของราก และเสริมความแข็งแรงของต้น

 

      - ช่วงแตงโมหลังย้ายกล้า 7-20 วัน (ระยะต้นเล็ก-ระยะทอดยอด)

 

       หลังย้ายกล้าประมาณ 7 วัน คุณสมศักดิ์ จะเริ่มตัดยอดแตงโมให้เหลือต้นละ 2 แขนง หากไม่ตัดแขนงทิ้ง จะทำให้แปลงแน่น อากาศถ่ายเทได้ไม่สะดวก และแตงโมอาจติดผลในหลายแขนงมากเกินไป ทำให้ผลผลิตไม่ได้คุณภาพ

 

       จากนั้นหลังตัดแต่งแขนงเสร็จแล้ว จะปรับเพิ่มการบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู  อัตรา 1 กิโลกรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร ต่อพื้นที่ 1 ไร่ ความถี่วันเว้นวัน ต่อเนื่องไปจนถึงแตงโมอายุ 20 วัน เพื่อให้ต้นแตกแขนงดี ใบเขียวสมบูรณ์ เตรียมพร้อมสำหรับการออกดอก โดยในช่วงนี้ คุณสมศักดิ์ จะหมั่นลงแปลงทุกวัน เพื่อคอยจัดเถาแตงโมให้เลื้อยไปในทิศทางเดียวกัน และไม่ให้ไม่เถาซ้อนทับจนแปลงแน่นทึบเกินไป ช่วยให้ผึ้งหรือแมลงต่างๆ สามารถเข้าผสมเกสรได้อย่างทั่วถึง

ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู ช่วยให้ต้นแตกแขนงดี ใบเขียวสมบูรณ์ สังเคราะห์แสงได้ดี

“ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู” เม็ดปุ๋ยสีฟ้า ละลายง่าย พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ไว

คุณสมศักดิ์ ประยุกต์ใช้ “ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู” ผ่านระบบน้ำหยด
พิสูจน์แล้วแทบไม่เหลือกาก ไม่ทำให้สายน้ำหยดอุดตัน

 

       สำหรับการให้น้ำ ช่วงแตงโมอายุ 3-30 วัน หลังย้ายกล้า จะให้น้ำทุกวันๆ ละ 2 รอบ (เช้า-เย็น) นานรอบละ 20 นาที เพราะแม้แตงโมจะเป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย แต่การให้น้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาระดับความชื้นในดิน จะช่วยให้รากพืชสามารถดูดซับธาตุอาหารได้ดียิ่งขึ้น

ช่วงแตงโมอายุ 3-30 วัน (หลังย้ายกล้า) แตงโมยังต้นเล็กและไม่แข็งแรงมาก หากขาดน้ำจะทำให้ต้นเหี่ยวเฉาหรือตายได้

 

ขั้นตอนต่อดอก-ไว้ผล

เทคนิคสำคัญช่วยให้แตงโมลูกใหญ่สม่ำเสมอ

 

       “การต่อดอก-ไว้ผล” ถือเป็นขั้นตอนที่ช่วยให้ผลผลิตได้คุณภาพ มีขนาดใหญ่ รูปทรงสวยเป็นเกรดเอ ตรงตามความต้องการของตลาด

           

       โดยมีจุดเริ่มต้นสำคัญตั้งแต่ช่วงแตงโมเข้าสู่ระยะออกดอก (หลังย้ายกล้า 20–27 วัน) คุณสมศักดิ์จะใช้วิธีธรรมชาติโดยให้ผึ้งหรือแมลงต่างๆ ทำหน้าที่ผสมดอก ดังนั้น ในระยะนี้จะต้องหยุดการบำรุงธาตุอาหาร รวมถึงการฉีดพ่นฮอร์โมนทุกชนิดชั่วคราว ไปจนกว่าแตงโมจะติดผลอ่อน เพื่อไม่เป็นการรบกวนแมลง และช่วยให้การผสมเกสรสมบูรณ์ที่สุด

 

       จากนั้นเมื่อแตงโมเริ่มติดผลขนาดเท่าไข่ไก่ จะเริ่มขั้นตอนการ “ไว้ผล” โดยจะคัดไว้เฉพาะผลที่รูปทรงสวยจำนวน 1 ผลต่อแขนง จากตำแหน่งข้อที่ 9 ถึงข้อที่ 15 เท่านั้น  ในกรณีที่มีการติดผลในตำแหน่งข้อที่ 1-8 ก็ให้ปลิดทิ้งทั้งหมด ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่ทำให้แตงโมออกมาลูกใหญ่สม่ำเสมอเท่ากันทุกลูก หากปล่อยให้แตงโมติดผลพร้อมกันหลายผลในแขนงเดียว จะทำให้ผลมีขนาดเล็กและไม่ได้คุณภาพ

ไว้ผลตำแหน่งข้อที่ 9 ถึงข้อที่ 15 เท่านั้น หากติดผลในตำแหน่งข้อที่ 1 ถึงข้อที่ 8 ให้ปลิดทิ้งทั้งหมด

 

       ทั้งนี้ คุณสมศกดิ์ ยังเน้นย้ำว่า ในช่วงแตงโมติดดอกและติดผลอ่อน เกษตรกรควรลงสำรวจแปลงอย่างใกล้ชิดทุกวันทั้งเช้าและเย็น เพื่อตรวจสอบว่าดอกแตงโมได้รับ การผสมเกสรอย่างสมบูรณ์ จนเริ่มติดผลอ่อน รวมถึงคอยสังเกตการเจริญเติบโตของผล ว่ามีแมลงศัตรูพืชเข้าทำลายหรือไม่ หากพบปัญหาจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที

 

       คุณสมศักดิ์ กล่าวเสริมว่า “เคล็ดลับการบำรุงรวมถึงเทคนิคต่างๆ ที่นำใช้ในแปลง ส่วนหนึ่งก็มาจากการหาข้อมูลในสื่อออนไลน์ โดยจะมีกลุ่มให้ความรู้มากมายหลายกลุ่ม เราก็นำความรู้เหล่านั้นมาทดลองปรับใช้ พัฒนาไปเรื่อยๆ ทั้งเรื่องเทคนิควิธีการดูแลแตงโม นอกจากนี้ยังคอยติดตามเรื่องโรคพืชที่กำลังระบาดตามพื้นที่ใกล้เคียง จะได้หาวิธีป้องกันรับมือให้ได้มากที่สุด ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ ก็ทำให้ผลผลิตของเรามีคุณภาพมากขึ้นครับ”

 

เคล็ดลับผลผลิตสูง 7 ตัน/ไร่

ลูกใหญ่ ไส้ไม่ล้ม ได้เกรดเอ 90%

 

       หลังจากแตงโมติดผลแล้ว เป็นช่วงเวลาสำคัญที่แตงโมกำลังเริ่มสร้างเนื้อ ขยายผล เพิ่มน้ำหนัก หากมีการบำรุง “ธาตุอาหาร” และให้ “น้ำ” อย่างเหมาะสมในช่วงนี้  จะช่วยให้แตงโมมีผลใหญ่ ทรงสวย เนื้อแน่น มีรสชาติหวาน และที่สำคัญคือ ลดปัญหา “ไส้ล้ม” ได้มาก

 

       สำหรับผลผลิตที่แปลงของคุณสมศักดิ์ จะได้น้ำหนักรวมสูงถึง 7 ตันต่อไร่ ทั้งยังได้ “เกรดเอ” สูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่พื้นที่ข้างเคียงจะได้ผลผลิตประมาณ 4-5 ตันต่อไร่เท่านั้น

        

       โดยเคล็ดลับสำคัญในการบำรุงแตงโมหลังติดผล” คุณสมศักดิ์ จะปรับปริมาณปุ๋ยเพิ่มขึ้นให้สัมพันธ์กับขนาดของผลที่ขยายใหญ่ขึ้น ดังนี้

        

       - หลังย้ายกล้าแตงโม 30-40 วัน (ระยะติดผลเล็ก)

 

       ในช่วงนี้ผลแตงโมจะขนาดประมาณผลไข่ไก่ จะบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู ให้ผ่านสายน้ำหยด อัตรา 1.5 กิโลกรัม ต่อไร่ ต่อน้ำ 200 ลิตร ต่อพื้นที่ 1 ไร่ ความถี่วันเว้นวัน ต่อเนื่องไปจนถึงแตงโมอายุ 40 วัน เพื่อช่วยให้ผลอ่อนมีการพัฒนาผลให้สมบูรณ์  สร้างเนื้อ ขยายเปลือก และช่วยให้ขยายผลได้เร็ว

ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู ช่วยให้ผลอ่อนแตงโมมีการพัฒนาสมบูรณ์ 

 

       - หลังย้ายกล้าแตงโม 40-50 วัน (ระยะขยายผล)

 

       ในช่วงนี้ผลแตงโมน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม สีเนื้อเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง จะปรับเพิ่มสูตรการบำรุง โดยใช้ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู ผสมกับปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 9-25-25 สัดส่วน 1:1 อัตรา 3 กิโลกรัม ต่อน้ำ 200 ลิตร ต่อพื้นที่ 1 ไร่ ความถี่วันเว้นวัน จะช่วยเร่งขยายผล สร้างเนื้อให้แตงโมลูกใหญ่ น้ำหนักดี และมีสีแดงสวยน่ารับประทาน

ช่วงแตงโมขยายผล จะบำรุงด้วย “ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู” ผสมกับ “ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 9-25-25”

ช่วยเร่งขยายผล สร้างเนื้อให้แตงโมลูกใหญ่ น้ำหนักดี และมีสีแดงสวยน่ารับประทาน

 

       สำหรับการให้น้ำ ช่วงแตงโมอายุ 40-55 วัน หลังย้ายกล้า จะให้น้ำทุกวันๆ ละ 2 รอบ (เช้า-เย็น) โดยปรับเวลาให้นานขึ้น เป็นรอบละ 30 นาที ต่อเนื่องไปจนถึงแตงโมอายุได้ 55 วัน จากนั้นจะหยุดให้น้ำ ถือเป็นอีกเคล็ดลับสำคัญของคุณสมศักดิ์ เรียกว่า การทำความหวานช่วยให้แตงโมมีรสชาติดี มีความหวานมากขึ้น

 

       ทั้งนี้ คุณสมศักดิ์ เผยถึงเทคนิคการดูแลแตงโมเพื่อลดปัญหา “ไส้ล้ม” ว่า “ในช่วงแตงโมกำลังขยายผล จะต้องคอยลงแปลงสำรวจแตงโมอย่างใกล้ชิดครับ เพื่อควบคุมปริมาณน้ำอย่างเหมาะสม เพราะหากแตงโมขาดน้ำในช่วงนี้จะทำให้ผลเล็ก เนื้อไม่แน่น แต่ถ้าได้รับน้ำหรือธาตุอาหารมากเกินไป อาจเกิดปัญหา “ไส้ล้ม” ซึ่งมีลักษณะอาการคือ เนื้อด้านในจะแตกเป็นโพรง เพราะผลแตงโมขยายเร็วเกินไป แต่ถ้ามีการปรับปริมาณน้ำอย่างเหมาะสม จะช่วยลดปัญหานี้ได้มากครับ”

ช่วงแตงโมอายุ 40-55 วัน หลังย้ายกล้า แตงโมต้องการน้ำในปริมาณเพิ่มขึ้นเพื่อการขยายผล

ช่วงแตงโมอยู่ใน “ระยะขยายผล” คุณสมศักดิ์ จะหมั่นลงแปลงทุกวัน

เพื่อตรวจสอบว่าแตงโมไม่ได้รับน้ำในปริมาณมาก-น้อยเกินไป ลดการเกิดปัญหา “ไส้ล้ม”

 

ผลผลิตได้คุณภาพ “ปลูกเอง-ขายเอง”

มีเท่าไหร่ไม่พอขาย กำไรเพิ่มขึ้น

 

       ในการเก็บผลผลิตแตงโมให้ได้คุณภาพสูงสุด นอกจากเกษตรกรจะต้องพิจารณาตามอายุเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมกับสายพันธุ์แล้ว ยังต้องคำนึงถึง “รูปแบบการจำหน่าย” ด้วยเช่นกัน

 

       สำหรับกรณีคุณสมศักดิ์ เลือกทำตลาดด้วยตนเอง “ปลูกเอง-ขายเอง” จึงสามารถเก็บผลผลิตได้ในช่วงเวลาที่แตงโมได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์ ทั้งในแง่ของขนาด เนื้อสัมผัส และความหวาน จนสามารถสร้างจุดเด่นด้านรสชาติขึ้นมา

 

       คุณสมศักดิ์ เผยว่า “พอเราปลูกเอง ขายเอง แตงโมเราก็จะไม่เหมือนใครครับ คือมีความหวานกว่าของที่อื่น เพราะปกติแล้วการเก็บแตงโมนั้นสามารถตัดผลผลิตได้ตั้งแต่อายุ 57- 65 วัน ถ้าเราขายให้พ่อค้าคนกลางจะต้องเริ่มตัดแตงโมตอนอายุ 57 วัน เผื่อเวลาสำหรับการขนส่ง แต่ที่แปลงผมจะเก็บผลผลิตในช่วงอายุประมาณ 60-65 วัน ตรงนี้แหละที่ทำให้แตงโมของเราหวานกว่าของที่อื่น และที่สำคัญคือ สามารถขายได้ราคาดีกว่าพ่อค้ามารับซื้อเฉลี่ย 1-2 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้สามารถมีรายได้เพิ่มขึ้นไร่ละ 6,000-7,000 บาทเลยครับ”

 

แผงแตงโมของคุณสมศักดิ์ “ปลูกเอง-ขายเอง” ผลผลิตสดใหม่ ถูกใจลูกค้า

 

       ทั้งนี้ นอกจากจุดเด่นด้านรสชาติแล้ว ด้านปริมาณผลผลิตของคุณสมศักดิ์ ก็ไม่แพ้ใครเช่นกัน เพราะได้ผลผลิตสูงถึง 7 ตันต่อไร่ และเป็นเกรดเอกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ โดยทั้งหมดนั้นมีปัจจัยสำคัญมาจากการปรับปรุงวิธีการบำรุงให้ตรงตามระยะการเจริญเติบโตของพืช ควบคู่กับการใช้ “ปุ๋ยตรากระต่าย” ทำให้ได้ผลผลิตดีขึ้นอย่างชัดเจน

 

       โดยคุณสมศักดิ์ เล่าถึงจุดเปลี่ยนความสำเร็จว่า “หลังจากมีการปรับวิธีการบำรุง หันมาใช้ ‘ปุ๋ยตรากระต่าย’ ทำให้ได้ผลลัพธ์ดีมากขึ้น คุ้มค่ามากขึ้น เพราะปุ๋ยมีคุณภาพ เลยสามารถมั่นใจได้ว่า ช่วยให้ต้นสมบูรณ์ ลูกใหญ่ เนื้อแน่นแน่นอนครับ อย่างปีนี้ผมปลูกแตงโมบนพื้นที่แค่ 5 ไร่ มีรายได้เข้ามาไม่ต่ำกว่า 4 แสนบาทแน่นอน ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ถ้าอยากมีรายได้ดี แต่มีพื้นที่ไม่มาก ปลูกแตงโมก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ ถ้าคุณภาพผลผลิตดี มีกำไรชัวร์ครับ”

 

       คุณสมศักดิ์ ถือเป็นตัวอย่างในการบริหารจัดการพื้นที่อย่างคุ้มค่าในแบบฉบับ “เกษตรกรมืออาชีพ” อย่างแท้จริง โดยเลือก “ปลูกแตงโมหลังนา” จนสร้างรายได้หลักแสน แทนการปล่อยพื้นที่ทิ้งไว้โดยเปล่าประโยชน์ ทั้งยังดูแลผลผลิตอย่างใกล้ชิด คอยปรับการบำรุงธาตุอาหารและน้ำให้สอดคล้องกับการเจริญติบโตของพืช จนสามารถเพิ่มผลผลิตขึ้นเป็น 7 ตันต่อไร่ เป็นเกรดเอสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ พอปลูกเอง-ขายเอง ใส่ใจตั้งแต่ “แปลง” จนถึง “แผง” ขนาดนี้ เลยรับกำไรเต็มๆ แบบชัวร์ เด๊ะ เด๊ะ สมหวังเป๊ะ เป๊ะ 

คุณสมศักดิ์กับ “ปุ๋ยตรากระต่าย” ปุ๋ยขายดีอันดับ 1 ที่เกษตรกรเลือกใช้
ตัวช่วยสำคัญที่เพิ่มผลผลิตให้สูง 7 ตันต่อไร่ เป็นเกรดเอ 90 เปอร์เซ็นต์

แตงโมที่แปลงของคุณสมศักดิ์ เก็บผลผลิตในช่วงอายุประมาณ 60-65 วัน รสชาติหวานชัวร์

 

สำหรับผู้ที่สนใจเคล็ดลับในการทำการเกษตร สามารถติดตามสาระเกษตรน่ารู้ ได้ที่  

คลิกปลูกแตงโม ให้ลูกใหญ่ เกรดเอ เนื้อแน่น เก็บขายได้ทุกลูก

 

ติดตามข่าวสารอื่นๆ ข้อมูลสินค้า และข่าวสารจากปุ๋ยตรากระต่าย เพิ่มเติมได้ที่  

Facebook : www.facebook.com/puitrakratai/

YouTube : www.youtube.com/c/Puitrakratai    

TikTok : https://www.tiktok.com/@puitrakratai    

Line : เจียไต๋ Chia Tai : https://r.holistica.live/e/x/aHb7cqpCh

ข้อมูลสินค้าปุ๋ยตรากระต่าย: https://www.chiataigroup.com/business/fertilizer/Puitrakratai-Fruits-Vegetables