อินฟลูฯ สายเกษตร เผยเทคนิคปลูก “มันสำปะหลัง” ได้ผลผลิตสูง 8 ตัน/ไร่ คุณภาพการันตีรางวัล สร้างจุดขายเพิ่มรายได้

       หากพูดถึงพืชเศรษฐกิจที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย “มันสำปะหลัง” ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ตอบโจทย์เกษตรกร เพราะทนแล้ง ใช้น้ำน้อย และสามารถปรับตัวได้ดีในทุกสภาพพื้นที่ ทั้งยังมีตลาดรองรับแน่นอน นื่องจากเป็นวัตถุดิบสำคัญในหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม, พลังงานทดแทน และอาหารสัตว์ ฯลฯ ส่งผลให้ในปี 2567 ประเทศไทยสามารถส่งออกมันสำปะหลังมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ถือเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก (ข้อมูล : สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า, 2567) 

 

       อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีความต้องการทางตลาดสูง แต่ผลผลิตเฉลี่ยของมันสำปะหลังในไทยกลับได้เพียง 3,096 กิโลกรัมต่อไร่เท่านั้น (ข้อมูล : สำนักงานเศรษฐกิจเกษตรกร, 2567) ซึ่งปัจจัยหลักมาจากดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ และโรคพืชทำให้ผลผลิตลดลงอย่างต่อเนื่อง 

 

       แต่สำหรับ คุณนันท์ชพร บุราณเดช หรืออ้อแอ้ วัย 22 ปี เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี กลับสามารถปลูกมันสำปะหลังจนได้ผลผลิต 8 ตันต่อไร่ ทั้งยังส่งประกวด มันสำปะหลังหัวใหญ่” คว้ารางวัลชนะเลิศถึง 2 ปีซ้อน ช่วยสร้างจุดขายจนโด่งดังในโลกโซเชียล และสามารถต่อยอดขายท่อนพันธุ์สร้างรายได้เสริมอีกทาง 

 

       คุณอ้อแอ้ เผยว่า ปัจจุบันปลูกมันสำปะหลังบนพื้นที่ 28 ไร่ หลังจากได้เข้ามาสานต่อจากครอบครัวอย่างเต็มตัว ก็ได้เข้ามาปรับปรุงวิธีการบำรุงให้ตรงตามความต้องการของพืช รวมถึงให้ความสำคัญกับการเลือกท่อนพันธุ์ที่ปลอดโรค และการจัดการแปลงต่างๆ มากขึ้น เพราะแม้ว่ามันสำปะหลังจะเป็นพืชที่อาศัยการดูแลน้อย แต่การทำ “เกษตรยุคใหม่” ไม่ใช่แค่การปลูกแล้วรอผลผลิตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องมีความพิถีพิถัน และใส่ใจในรายละเอียด เพื่อให้ผลผลิตได้น้ำหนัมากที่สุด รายได้ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

 

      เบื้องหลังผลผลิต 8 ตันต่อไร่ จะมีเทคนิคอย่างไร? ตามไปเปิดสูตรลับฉบับ “อินฟลูเอนเซอร์สายเกษตร” กันได้เลย! 

คุณนันท์ชพร บุราณเดช หรืออ้อแอ้ เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี

 

เทคนิคเลือก “สายพันธุ์-ท่อนพันธุ์”
ก้าวแรกความสำเร็จ

 

       มันสำปะหลังแต่ละสายพันธุ์นั้นมีลักษณที่แตกต่างกัน ทั้งในแง่ความทนแล้ง ความต้านทานโรค รวมถึงความเหมาะสมกับดินแต่ละชนิด ดังนั้น การเลือกสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ปลูกจึงเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตเป็นอย่างมาก

 

       โดยจากการทดลองปลูกมันสำปะหลังมาหลายสายพันธุ์ ปัจจจุบันคุณอ้อแอ้ จะเลือกปลูกสายพันธุ์ “พวงเพชร” และ “เกษตรยักษ์” เป็นหลัก เนื่องจากเหมาะกับดินทราย มีความทนแล้ง ทนต่อโรคใบด่าง รวมทั้งมีขนาดหัวใหญ่ น้ำหนักดี และมีอัตรางอกสูง

 

       นอกจากนี้ การคัดเลือก “ท่อนพันธุ์” ก่อนปลูก ก็ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มอัตราการงอกและความแข็งแรงของต้นแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการปลูกซ้ำ และเพิ่มโอกาสให้ได้มันสำปะหลังหัวใหญ่ น้ำหนักดีอีกด้วย

 

      ดังนั้น คุณอ้อแอ้ จึงใส่ใจในการคัดเลือกท่อนพันธุ์เป็นอย่างมาก โดยมีหลักการคือ ต้องใช้ท่อนพันธุ์จากต้นพันธุ์หลักที่มีอายุ 10 เดือนขึ้นไป ตัดเก็บไว้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ (ก่อนนำไปปลูก) ลักษณะท่อนพันธุ์มีตาถี่และขนาดใหญ่ จะช่วยให้มีอัตรางอกสูง ทั้งนี้ ต้องมั่นใจว่าเป็นท่อนพันธุ์ที่ปลอดโรคและแมลง เช่น โรคใบด่าง โรคพุ่มแจ้ เพลี้ยแป้ง และเพลี้ยหอย เพราะจะทำให้ผลผลิตลดลงได้

ท่อนพันธุ์จากต้นพันธุ์หลักที่มีอายุ 10 เดือนขึ้นไป มีตาถี่และขนาดใหญ่ จะช่วยให้มีอัตรางอกสูง

 

       สำหรับ “โรคใบด่าง” ถือเป็นโรคที่สร้างความเสียหายในมันสำปะหลังเป็นอย่างมาก แค่เฉพาะในปี 2567 ทำให้ผลผลิตรวมทั่วประเทศลดลงกว่า 2 ล้านตัน ลักษณะของโรคคือ จะทำให้ใบด่าง เหลือง และหงิกงอเสียรูปทรง หากใช้ท่อนพันธุ์ที่เป็นโรคใบด่างในการปลูก ยอดที่แตกใหม่ก็จะแสดงอาการด่างเช่นกัน ทำให้การสังเคราะห์แสงลดลง ส่งผลให้มันสำปะหลังไม่สร้างหัว หรือมีหัวเล็ก หากเกิดการระบาดรุนแรง อาจทำให้ผลผลิตลดลงถึง 80-100 เปอร์เซ็นต์ (ข้อมูล : สมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย, 2567) ดังนั้น เกษตรกรควรใช้ท่อนพันธุ์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ หรือหากเก็บท่อนพันธุ์ไว้ใช้เอง ต้องเป็นท่อนพันธุ์ที่มาจากแปลงที่ไม่พบโรคเท่านั้น

โรคและแมลงศัตรูพืชที่สามารถติดไปกับท่อนพันธุ์มันสำปะหลังได้

 

“เตรียมดินดี” ความสำเร็จก้าวที่สอง

ในการปลูกมันสำปะหลัง

 

       มันสำปะหลังเป็นพืชที่สะสมอาหารไว้ใน “ราก” หรือก็คือส่วนที่เราเรียกกันว่า “หัว” นั่นเอง ดังนั้น การเจริญเติบโตของหัวจึงขึ้นอยู่กับโครงสร้างของดินเป็นหลัก หากดินร่วนซุยจะช่วยให้รากของมันสำปะหลังสามารถหาอาหารได้อย่างเต็มที่ และการลงหัวของมันสำปะหลังดีตามไปด้วยดี

 

       โดยในขั้นตอนการเตรียมแปลงหลังจากเก็บผลผลิตเสร็จแล้ว คุณอ้อแอ้ จะเริ่มด้วยการไถผาน 5 เพื่อให้ดินแตกตัวและเป็นการไถกลบวัชพืชช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุในดินไปในตัว จากนั้นจะพักหน้าดินไว้ 1-2 สัปดาห์ เพื่อฆ่าเชื้อโรคในดิน ตามด้วยการไถผาน 3 ให้ลึกสุดผาน เพื่อเป็นการพลิกหน้าดิน ให้ดินชั้นล่างที่มีความสมบูรณ์ขึ้นมาด้านบน เสร็จแล้วจะทำการไถพรวนอีกครั้งเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อให้ดินร่วนซุยพร้อมในการลงปลูก

 

       หลังจากเตรียมดินเรียบร้อยแล้ว จะใช้เครื่องจักรยกร่องพร้อมปักท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง โดยใช้ ระยะห่างระหว่างร่อง 150 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างต้น 90 เซนติเมตร และใช้ความยาวของท่อนพันธุ์ประมาณ 25 เซนติเมตร ปักด้วยความลึกประมาณ 10 เซนติเมตร

ระยะห่างระหว่างต้นที่เหมาะสมจะช่วยให้มันสำปะหลังได้รับแสงแดด น้ำ และธาตุอาหารอย่างเพียงพอ

รวมถึงช่วยให้การจัดการแปลง เช่น การใส่ปุ๋ย และกำจัดวัชพืช ทำได้ง่ายขึ้น

 

       จากนั้น คุณอ้อแอ้ จะเริ่มขั้นตอนการบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน ช่วยให้รากมันสำปะหลังแข็งแรง และเตรียมความพร้อมให้ต้นโตสมบูรณ์ในระยะต่อไป

 

ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 ช่วยกระตุ้นให้ต้นท่อนพันธุ์แตกใบเร็ว ต้นแข็งแรง รากแตกแตัวได้ดี

 

“เคล็ดลับการบำรุงดี” ควบคู่กำจัดวัชพืช

เพื่อมันสำปะหลังหัวใหญ่ ได้น้ำหนัก 8 ตันต่อไร่

 

       พื้นที่ปลูกมันสำปะหลังในประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสาน ซึ่งมักเป็น “ดินทราย” หรือ “ดินลูกรัง” ที่มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างต่ำ เพราะโครงสร้างดินมีความสามารถในการดูดซับ ธาตุอาหารได้น้อยและยิ่งปลูกโดยการพึ่งพาน้ำฝนเป็นหลัก ซึ่งไม่สามารถกำหนดช่วงเวลาและปริมาณน้ำที่แน่นอนได้ ยิ่งส่งผลให้การเจริญเติบโตของพืชลดลง ทำให้มันสำปะหลังหัวเล็ก ได้น้ำหนักต่อไร่ต่ำในที่สุด

 

       ด้วยข้อจำกัดเหล่านี้ คุณอ้อแอ้ จึงให้ความสำคัญกับการบำรุงดินเป็นอย่างมาก เพื่อเตรียมความพร้อมให้ดินมีธาตุอาหารสมบูรณ์ก่อนปลูก โดยเน้นหลัก “บำรุงให้ตรงจุดและถูกช่วงเวลา” เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และไม่ต้องบำรุงหลายครั้ง

 

       สำหรับขั้นตอนการบำรุง “มันสำปะหลัง” ให้หัวใหญ่ จนได้น้ำหนักรวม 8 ตันต่อไร่ ในแบบฉบับของคุณอ้อแอ้ จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงหลัก ดังนี้

 

       - ช่วงมันสำปะหลังอายุ 2-3 เดือน เป็นช่วงที่มันสำปะหลังกำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในส่วนของ “ลำต้นและใบ” จะบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อเร่งต้นให้โตสมบูรณ์ ใบใหญ่ สีเขียวทน ช่วยให้รากแตกตัวหาอาหารได้ดี

 

 

 

ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 ช่วยให้ต้นมันสำปะหลังเจริญเติบโตเร็ว แตกใบดี

 

       ทั้งนี้ ก่อนการบำรุง คุณอ้อแอ้ จะกำจัดวัชพืชก่อน เพื่อไม่ให้มาแย่งอาหาร จากนั้นจึงใช้รถไถในการให้ปุ๋ยพร้อมไถกลบในขั้นตอนเดียว เพื่อให้พืชดูดซับอาหารได้เต็มที่

มันสำปะหลังอายุ 2-3 เดือน ใบใหญ่ สีเขียวทน ทำให้พืชสามารถสังเคราะห์แสงได้เต็มที่

 

       - ช่วงมันสำปะหลังอายุ 5-6 เดือน หรือที่เกษตรกรเรียกว่า “ช่วงระเบิดหัว”  ถือเป็นช่วงสำคัญที่สุดของการบำรุง เพราะมันสำปะหลังกำลังเริ่มสะสมแป้งใน “หัว” จะปรับเพิ่มการบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 ผสมกับปุ๋ยสูตร 0-0-60 ในสัดส่วน 1:2 อัตรา 35 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อช่วยเพิ่มแป้งให้มันสำปะหลังหัวใหญ่ ได้น้ำหนักดี และมีเปอร์เซนต์แป้งสูง

 

 

บำรุงมันสำปะหลังอายุ 5-6 เดือน ช่วยให้มันหัวใหญ่ ได้เปอร์เซ็นต์แป้งสูง

 

       คุณอ้อแอ้ กล่าวถึงเคล็ดลับความสำเร็จว่า “นอกจากการบำรุงอย่างตรงตามความต้องการของพืชแต่ละระยะแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ปุ๋ยคุณภาพอย่าง ปุ๋ยตรากระต่าย ด้วยค่ะ ซึ่งที่บ้านนั้นใช้มาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ ไม่เคยเปลี่ยนใจเลย โดยเฉพาะปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 หรือยูเรีย เพราะเม็ดปุ๋ยใหญ่ กลมเกลี้ยง ไม่ติดเครื่องหยอด ใช้แล้วช่วยให้ต้นสมบูรณ์ใบเขียวทนค่ะ

 

       แล้วอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ต้องหมั่นลงแปลงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อคอยสังเกตโรคและแมลงศัตรูพืชไปจนถึงช่วงมันสำปะหลังอายุ 9-12 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตเลยค่ะ ถ้าทำได้แบบนี้ รับรองผลผลิตออกมาดี ไม่มีพลาดแน่นอน”

ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 เม็ดปุ๋ยแกร่ง กลมเกลี้ยง ทำให้ไม่ติดเครื่องหยอด

คุณอ้อแอ้ กับมันสำปะหลังหัวใหญ่ น้ำหนักดี

 

เทคนิคปลูกมันสำปะหลังหัวใหญ่ส่งประกวด

การันตีรางวัล 2 ปีซ้อน

 

       นอกจากการปลูกมันสำปะหลังจนได้ผลผลิตสูงถึง 8 ตันต่อไร่แล้ว คุณอ้อแอ้ ยังพัฒนาเทคนิคการปลูกเพื่อให้ได้มันสำปะหลังหัวใหญ่สำหรับการประกวดด้วย โดยเกณฑ์การพิจารณาหลักสำหรับมันสำปะหลังประกวดคือ ต้องมี “น้ำหนัก” ต่อหัวสูง และเหง้าต้องมี “ความสมบูรณ์” ปลอดโรคหรือแมลงเข้าทำลาย ดังนั้น เกษตรกรจึงต้องอาศัยความใส่ใจในการดูแลเป็นอย่างมาก

 

       สำหรับ “การปลูกมันสำปะหลังเพื่อการประกวด” ของคุณอ้อแอ้ จะใช้หลักการบำรุงเดียวกับการปลูกแบบปกติ แต่จะเสริมการดูแลเข้ามาเป็นพิเศษ คือ “เพิ่มการให้น้ำ” ความถี่ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และ “เพิ่มการบำรุง” ตามระยะเวลาปลูกที่นานขึ้น ดังนี้  

 

       - ช่วงมันสำปะหลัง อายุ 1 ปี 3 เดือน จะบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 อัตรา 30 กรัม/ต้น

 

       - ช่วงมันสำปะหลัง อายุ 1 ปี 6 เดือน จะบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 ร่วมกับปุ๋ยสูตร 0-0-60 สัดส่วน 1:2 อัตรา 30 กรัม/ต้น

 

       ด้วยเทคนิคการบำรุงนี้ ทำให้ได้มันสำปะหลังหัวใหญ่ น้ำหนักสูงถึง 32 กิโลกรัมต่อหัว สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศระดับอำเภอ ในเวทีประกวด “งานวันสถาปนาอำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี” ได้ถึง 2 ปีซ้อน รับทั้งเงินรางวัลและความภูมิใจไปแบบเต็มๆ

 

 

 

เคล็ดลับบำรุง “มันสำปะหลังประกวด” ฉบับคุณอ้อแอ้ ที่คว้ารางวัลชนะเลิศถึง 2 ปีซ้อน

 

ต่อยอดความสำเร็จสู่ “เกษตรกรสายอินฟลูฯ”

ช่วยสร้างจุดขาย เพิ่มรายได้

 

       ปัจจุบัน “โซเชียลมีเดีย” กลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดสำคัญ ที่ช่วยสร้างรายได้และเพิ่มช่องทางการขายได้มากขึ้น คุณอ้อแอ้ จึงเห็นโอกาสนี้เริ่มสร้างตัวตนผ่านติ๊กต็อก (TikTok) ชื่อช่อง “อ้อแอ้อายุน้อยร้อยไร่” เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และเคล็ดลับการปลูกมันสำปะหลัง พร้อมบอกเล่าไลฟ์สไตล์ในแบบวิถีชีวิตเกษตรกร ทำให้มีผู้ชื่นชอบเป็นจำนวนมาก จนปัจจุบันมีผู้ติดตามมากกว่า 2 แสนราย

 

       ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่คุณอ้อแอ้ คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดมันสำปะหลังหัวใหญ่ ยิ่งเป็นการเพิ่มจุดขาย จนมีผู้สนใจเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับสายพันธุ์และการบำรุงดูแลมันสำปะหลังผ่านช่องทางติ๊กต๊อกอย่างต่อเนื่อง ช่วยต่อยอดไปสู่การ “ขายท่อนพันธุ์” สร้างรายได้เสริมอีกทาง เรียกได้ว่ากลายเป็น “อินฟลูเอนเซอร์สายเกษตร” ที่พิสูจน์ตนเองจากผลงานและความสำเร็จอย่างแท้จริง

คุณอ้อแอ้ กับบทบาท “อินฟลูเอนเซอร์สายเกษตร” ในติ๊กต็อกชื่อช่อง “อ้อแอ้อายุน้อยร้อยไร่”

 

       โดยคุณอ้อแอ้ เล่าถึงแนวคิดการทำเกษตรว่า กว่าจะมาถึงจุดนี้ก็ผ่านอุปสรรคมาเยอะมากค่ะต้องหมั่นเรียนรู้และปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ต้องใส่ใจในทุกขั้นตอนการปลูก เริ่มตั้งแต่การเตรียมแปลง การบำรุงธาตุอาหาร จึงต้องอาศัยความพยายามในศึกษาข้อมูลในหลายๆ ด้าน รวมทั้งการสร้างตัวตนผ่านติ๊กต็อก (TikTok) ชื่อช่อง “อ้อแอ้อายุน้อยร้อยไร่” คอยทำคอนเทนต์แบ่งปันความรู้และเทคนิคการปลูกมันสำปะหลัง เพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับเกษตรกรรุ่นใหม่ จนปัจจุบันมีผู้ติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อยอดสร้างรายได้ และสร้างโอกาสหลายๆ ด้านตามมาค่ะ”

 

       คุณอ้อแอ้ ถือเป็นตัวอย่างของเกษตรกรรุ่นใหม่ที่อาศัยทั้งความรู้ควบคู่กับทักษะในการปรับตัว จนสามารถสร้างโอกาสและความสำเร็จได้ด้วยตัวเอง โดยเริ่มต้นจากความใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเลือกท่อนพันธุ์ที่ดี การเตรียมดิน และการบำรุงอย่างตรงจุดตามระยะ
การเจริญเติบโตของพืชด้วย “ปุ๋ยตรากระต่าย” ปุ๋ยขายดีอันดับ 1 ที่เกษตรกรเลือกใช้ จนสามารถปลูกมันสำปะหลังได้ผลผลิตสูงถึง 8 ตันต่อไร่ ทั้งยังพัฒนาเทคนิคเพื่อให้ได้มันสำปะหลังหัวใหญ่จนคว้ารางวัลชนะเลิศ สร้างชื่อเสียงใน “โซเชียลมีเดีย” ช่วยพลิกวิถีเกษตรแบบดั้งเดิมเข้าสู่การตลาดยุคใหม่ ต่อยอดรายได้เสริมแบบชัวร์ เด๊ะ เด๊ะ สมหวังเป๊ะ เป๊ะ!

คุณอ้อแอ้ กับ “ปุ๋ยตรากระต่าย” ปุ๋ยขายดีอันดับ 1 ที่เกษตรกรเลือกใช้
ช่วยบำรุงมันสำปะหลังได้ผลผลิตสูงถึง 8 ตันต่อไร่

 

 

ผลผลิตมันสำปะหลังที่แปลงของคุณอ้อแอ้

 

สำหรับผู้ที่สนใจเคล็ดลับในการทำการเกษตร สามารถติดตามสาระเกษตรน่ารู้ ได้ที่      

เคล็ดลับ บำรุงมันสำปะหลัง ให้ลงหัวดี มีหัวใหญ่ เปอร์เซ็นแป้งสูง

เกษตรกรรุ่นใหม่ ปลูกมันสำปะหลัง ผลผลิต

เจาะเทคนิคปลูก “มันสำปะหลัง” แบบเกษตรกรรุ่นใหม่ เน้นควบคุมต้นทุน-บำรุงตรงจุด ได้ผลผลิตกว่า

 

ติดตามข่าวสารอื่นๆ ข้อมูลสินค้า และข่าวสารจากปุ๋ยตรากระต่าย เพิ่มเติมได้ที่   

Facebook: www.facebook.com/puitrakratai/

YouTube: www.youtube.com/c/Puitrakratai 

TikTok: https://www.tiktok.com/@puitrakratai 

ไลน์ : เจียไต๋ Chia Tai: https://r.holistica.live/e/x/6WRZ71tp1

ข้อมูลสินค้าปุ๋ยตรากระต่าย : https://www.chiataigroup.com/business/fertilizer/Puitrakratai-Rice-Fields